คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4446/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ตกลงให้จำเลยใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทตลอดชีวิตของจำเลยจำเลยจึงมีสิทธิเก็บกินในที่ดินพิพาทตลอดชีวิต แม้จะมิได้มีการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนสิทธิดังกล่าวให้บริบูรณ์อย่างทรัพยสิทธิตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคหนึ่ง แต่ก็สมบูรณ์ อย่างบุคคลสิทธิที่ใช้ยันกันได้ระหว่างโจทก์กับจำเลย โจทก์ต้องผูกพัน ตามข้อตกลงดังกล่าว จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2846 เนื้อที่ 4 ไร่2 งาน เมื่อประมาณปี 2534 จำเลยขอเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของโจทก์ดังกล่าว โดยมีข้อตกลงว่า หากโจทก์ตัดสินใจลงทุนประกอบกิจการในที่ดินดังกล่าว จำเลยต้องส่งมอบที่ดินคืนให้แก่โจทก์ทันที เมื่อเดือนตุลาคม 2539 โจทก์ประสงค์จะลงทุนประกอบกิจการปูนซีเมนต์สำเร็จรูปโดยต้องสร้างแท่นผสมปูนซีเมนต์และสำนักงานบนที่ดินดังกล่าว โจทก์จึงบอกกล่าวให้จำเลยขนย้ายวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆของจำเลยออกไปจากที่ดินและส่งมอบที่ดินคืนให้แก่โจทก์ แต่จำเลยเพิกเฉย ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์จากการใช้ที่ดินเดือนละ 20,000 บาทขอให้บังคับจำเลยพร้อมบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์และให้ส่งมอบที่ดินคืนแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยโดยห้ามมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับที่ดินอีกและให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ 20,000 บาท แก่โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่ดินของโจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยให้กาอุปการะเลี้ยงดูโจทก์เสมือนบุตรจำเลยให้เงินโจทก์จำนวน 50,000 บาท เพื่อนำไปไถ่ถอนจำนองที่ดินของโจทก์ตามคำฟ้อง จำเลยประกอบกิจการขุดทรายและหินกรวดโดยให้โจทก์ช่วยดูแล ซึ่งโจทก์ยินยอมให้จำเลยนำทราบและหินกรวดไปเก็บไว้ในที่ดินดังกล่าวและยอมให้จำเลยใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นตลอดชีวิตของจำเลย จำเลยจึงเป็นผู้ทรงสิทธิเก็บเกินในที่ดินของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) เลขที่ 2846 เนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน อันเป็นที่ดินพิพาท จำเลยเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทถึงปัจจุบัน

คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ตกลงให้จำเลยใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทตลอดชีวิตของจำเลย จำเลยจึงมีสิทธิเก็บกินในที่ดินพิพาทตลอดชีวิต แม้จะมิได้มีการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนสิทธิดังกล่าวให้บริบูรณ์อย่างทรัพยสิทธิ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคหนึ่งแต่ก็สมบูรณ์อย่างบุคคลสิทธิที่ใช้ยันกันได้ระหว่างโจทก์กับจำเลยโจทก์ต้องผูกพันตามข้อตกลงดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท

พิพากษายืน

Share