คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการคลังน้ำมันของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 1 ได้รับเงินจากลูกค้าและอนุมัติให้ขายน้ำมันได้แล้ว จำเลยที่ 3 มีอำนาจออกใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้าและควบคุมการจ่ายน้ำมันให้ลูกค้า ในชั้นสอบสวนคดีอาญาที่จำเลยที่ 3 ต้องหาว่าฉ้อโกงโจทก์ จำเลยที่ 3 รับว่ารับเงินเดือนจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 รับคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อได้เฉพาะแต่ผู้ที่เป็นลูกค้าที่ได้ทำสัญญาไว้กับจำเลยที่ 1 ที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น การที่จำเลยที่ 3 เอาชื่อปั๊มซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้ทำสัญญาไว้กับจำเลยที่ 1 ซื้อน้ำมันจากจำเลยที่ 1 มาขายให้โจทก์ จึงเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนืออำนาจ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้สัตยาบัน จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 3 เมื่อไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าโจทก์รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 3 ดำเนินการโดยปราศจากอำนาจ จำเลยที่3 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์โดยลำพัง
การนำสืบของโจทก์ยังไม่ได้ความชัดว่า ก่อนฟ้องโจทก์ทวงถามให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบน้ำมันเมื่อใด หากจำเลยที่ 3 ต้องใช้ราคาน้ำมันแทนจึงให้จำเลยที่ 3 เสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่า จำเลยทั้งสามจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เห็นว่า จำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการคลังน้ำมันเด่นชัยของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสุงสุดในคลังน้ำมัน เมื่อจำเลยที่ 1 ได้รับเงินจากลูกค้าและอนุมัติให้ขายน้ำมันได้แล้ว จำเลยที่ 3 มีอำนาจออกใบเสร็จรับเงินให้ลูกค้าและควบคุมการจ่ายน้ำมันให้ลูกค้า หรือจะสั่งให้นายวิสุทธิ์ บุรุษภักดี ผู้ช่วยของจำเลยที่ 3 ทำแทนกันได้ ในชั้นสอบสวนคดีอาญาที่จำเลยที่ 3 ต้องหาว่าฉ้อโกงโจทก์ จำเลยที่ 3 ก็รับว่าเงินเดือนจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ในการดำเนินกิจการที่คลังน้ำมันเด่นชัยของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 รับคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อได้เฉพาะแต่ผู้ที่เป็นลูกค้าที่ได้ทำสัญญาไว้กับจำเลยที่ 1 ที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น ดังนั้นการที่จำเลยที่ 3 เอาชื่อปั๊มเด่นชัยเซอร์วิสปั๊มไทยอยู่แสง ปั๊มงี่ฮะเอง และปั๊มสุทธการ ซึ่งเป็นลูกค้าที่ได้ทำสัญญาไว้กับจำเลยที่ 1 ซื้อน้ำมันจากจำเลยที่ 1 ตามบิลเงินสดเอกสารหมาย จ.13 ถึง จ.15 มาขายให้โจทก์ จึงเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจหรือทำนอกเหนืออำนาจโดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้สัตยาบัน จึงไม่ผูกพันจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์” ฯลฯ

“ส่วนจำเลยที่ 3 นั้น เมื่อทำสัญญาขายน้ำมันให้โจทก์โดยปราศจากอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการให้ไว้ โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้สัตยาบัน จำเลยที่ 3 ก็ต้องรับผิดต่อโจทก์โดยลำพัง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า โจทก์ได้รู้อยู่แล้วว่าจำเลยที่ 3 ดำเนินการโดยปราศจากอำนาจ” ฯลฯ

“ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวมายังไม่เป็นผลที่จะฟังว่า โจทก์ได้รู้อยู่ว่าจำเลยที่ 3 ขายน้ำมันให้โจทก์โดยปราศจากอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจเพราะการกระทำดังกล่าวกระทำดังกล่าวโจทก์อาจเข้าใจว่าอำนาจของจำเลยที่ 3 ที่จะทำได้ตามคำชี้แจงของจำเลยที่ 3 ดังที่จำเลยที่ 3 ให้การและเบิกความจำเลยที่ 3 จึงต้องรับผิดส่งมอบน้ำมันหรือใช้ราคาน้ำมันให้โจทก์ แต่การนำสืบของโจทก์ยังไม่ได้ความชัดว่า ก่อนฟ้องโจทก์ทวงถามให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบน้ำมันให้เพื่อใด หากจำเลยที่ 3 ต้องใช้ราคาน้ำมันแทน จึงเห็นควรให้จำเลยที่ 3 เสียดอกเบี้ยให้โจทก์ตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ฎีกาโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 ฟังขึ้นบางส่วน

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 3 ส่งมอบน้ำมันเบนซินจำนวน 40,000 ลิตร น้ำมันโซล่าจำนวน 100,000 ลิตร และน้ำมันเครื่องจำนวน 2 ถัง รวม 400 ลิตร ให้โจทก์ ถ้าไม่ส่งมอบได้ก็ให้ใช้ราคารวม 368,664 บาทแทน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้ต่างเป็นพับ”

Share