แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้รถจักรยานยนต์ของกลางไปเอาเมทแอมเฟตามีนที่ซ่อนไว้บ้านมารดามาจำหน่ายให้แก่สายลับ ถือได้ว่าจำเลยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษโดยตรง รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นยานพาหนะที่พึงต้องริบตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 102
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๗ , ๘ , ๑๕ ๕๗ , ๖๖ , ๙๑ , ๑๐๒ ริบของกลาง บวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๘๘๐/๒๕๔๓ ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษคดีนี้และนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๘๔๘/๒๕๔๓ ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษและนับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง , ๕๗ , ๖๖ วรรคหนึ่ง , ๙๑ ฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ จำคุก ๕ ปี ฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก ๗ ปี ฐานเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ จำคุก ๖ เดือน รวมจำคุก ๑๒ ปี ๖ เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำคุก ๖ ปี ๓ เดือน บวกโทษจำคุกในคดีที่รอการลงโทษไว้อีก ๙ เดือน เป็นจำคุก ๖ ปี ๑๒ เดือน นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๘๔๘/๒๕๔๓ ของศาลชั้นต้น ริบเมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์และอุปกรณ์ในการเสพเมทแอมเฟตามีนของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้เป็นว่า ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัย ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นที่ยุติในเบื้องต้นว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง และจำเลยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะไปเอาเมทแอมเฟตามีนที่ซ่อนไว้ที่บ้านมารดาจำเลยมาจำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยมีว่า รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยนำเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายไปเก็บไว้ที่บ้านมารดา เมื่อสายลับประสงค์จะซื้อจำเลยก็ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะไปเอาเมทแอมเฟตามีนที่บ้านมารดามาจำหน่ายให้แก่สายลับ เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษโดยตรง รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นยานพาหนะที่พึงต้องริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๒ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.