แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งของศาลชั้นต้นในคำแถลงของโจทก์ที่ยื่นเข้ามาคัดค้านคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดที่สั่งว่า “โจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นคำให้การในกำหนด แต่กลับแถลงคัดค้านตามคำแถลงนี้ ให้รับรวมสำนวน สำเนาให้ผู้ร้อง” สามารถเข้าใจได้ชัดเจนว่า ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำแถลงคัดค้านดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นคำให้การของโจทก์จึงได้แจ้งให้โจทก์ทราบในคำสั่งนั้นว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องยื่นคำให้การในกำหนด ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำแถลงคัดค้านของโจทก์ดังกล่าว ให้รับรวมสำนวนสำเนาให้ผู้ร้อง จึงเป็นการรับไว้เป็นคำแถลงเท่านั้น มิใช่รับไว้เป็นคำให้การของโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด โจทก์ย่อมขาดนัดยื่นคำให้การ ผู้ร้องจึงต้องมีคำขอต่อศาลภายในสิบห้าวัน นับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้โจทก์ยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลงเพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อผู้ร้องไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ศาลชั้นต้นชอบที่จะจำหน่ายคดีของผู้ร้องออกจากสารบบความได้ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 198 วรรคสอง