คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ไปเก็บค่าเช่าจากจำเลยตลอดมา 10 ปี ตั้งแต่เช่ากันมาเป็นการแสดงเจตนาไว้ว่า โจทก์จะเป็นผู้ไปเก็บค่าเช่าเอาจากจำเลยเองเมื่อโจทก์ไม่ไปเก็บ จะหาว่าจำเลยผิดนัดหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่728/2496)
จำเลยขอชำระค่าเช่า แต่โจทก์ไม่ยอมรับจำเลยจึงจัดส่งค่าเช่าทางธนาณัติให้โจทก์ โจทก์ก็ไม่ไปรับดังนี้ถือว่าจำเลยไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระค่าเช่า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่ โดยอ้างเหตุว่าจำเลยค้างชำระค่าเช่าหลายเดือน

จำเลยต่อสู้ว่า ไม่เคยค้างชำระค่าเช่า มีแต่ชำระให้ แต่โจทก์เบี่ยงบ่ายไม่รับ

ศาลแพ่งเห็นว่า การที่จำเลยชำระหนี้ค่าเช่าต่อโจทก์โดยทางไปรษณีย์ธนาณัติ เป็นการชำระหนี้โดยไม่ชอบ เพราะไม่มีข้อตกลงหรือกฎหมายสนับสนุนให้ชำระหนี้เช่นนั้น พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารกับให้ชำระค่าเช่าที่ค้างฯ

จำเลยอุทธรณ์ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งรับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า โจทก์ไม่ไปเก็บค่าเช่า จะว่าจำเลยผิดนัดไม่ได้พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกาว่า ตามกฎหมายจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าย่อมเป็นลูกหนี้โจทก์ผู้ให้เช่าการปฏิบัติการชำระหนี้หรือชำระค่าเช่า จำเลยมีหน้าที่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ณ ภูมิลำเนาของโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 324 เว้นแต่มีข้อตกลงกัน และเรื่องนี้โจทก์ก็ได้ไปเก็บค่าเช่าจากจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ให้โจทก์เคยรับธนาณัติฉบับหนึ่ง ไม่มีจดหมายนำส่ง จึงรับเงินไม่ได้

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ไปเก็บค่าเช่าตลอดมา 10 ปี ตั้งแต่เช่ากันมา เป็นการแสดงเจตนาไว้ว่า โจทก์จะเป็นผู้ไปเก็บค่าเช่าเอาจากจำเลยเอง เมื่อโจทก์ไม่ไปเก็บ จะหาว่าจำเลยผิดนัดหาได้ไม่เป็นความผิดของโจทก์เอง ตามแบบอย่างฎีกาที่ 728/2496 ส่วนข้อที่โจทก์ว่าได้ไปเก็บค่าเช่าแต่จำเลยไม่ให้นั้น ศาลฎีกาไม่เชื่อศาลฎีกาฟังว่า จำเลยขอชำระค่าเช่า แต่โจทก์ไม่ยอมรับ จำเลยจึงจัดส่งทางธนาณัติให้โจทก์ ๆ ก็ไม่ไปรับ ดังนี้ จำเลยไม่เป็นผู้ผิดนัดชำระค่าเช่า

พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share