แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่พนักงานสอบสวนรู้ว่าผู้ต้องหาปิดบังอาชีพและยศไว้โดยพนักงานสอบสวนมิได้ท้วงติงนั้นไม่ถือว่าเป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักเล่นการพนันไพ่เผ จำเลยให้การปฏิเสธและกล่าวอ้างว่าคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเกิดขึ้นเพราะถูกเจ้าหน้าที่หลอกลวง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ. การพนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๔,๑๐,๑๒ (ฉบับที่ ๔) ๒๔๘๕ มาตรา ๓,๔ (ฉบับที่ ๕) ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ปรับ ๓๐๐ บาท ลดรับสารภาพชั้นสอบสวนลง ๑ ใน ๓ ปรับ ๒๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับบังคับตาม มาตรา ๒๙,๓๐ และให้จำเลยจ่ายค่านำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า พนักงานสอบสวนทราบว่าจำเลยเป็นทหารประจำการและเป็นสิบเอกแต่จำเลยให้การว่ามีอาชีพทางรับจ้างและลงชื่อในบันทึกการจับกุมโดยไม่ได้ลงอักษรย่อ ส.อ. พนักงานสอบสวนไม่ท้วงติง เป็นการหลอกลงงจูงใจให้จำเลยรับสารภาพ
ศาลฎีกาพิพากษายืนโดยวินิจฉัยว่า จำเลยในคดีอาญาย่อมมีสิทธิที่จะให้การอย่างไรหรือไม่ให้การก็ได้ ถึงแม้พนักงานสอบสวนจะรู้ว่าจำเลยปิดบังอาชีพและยศไว้ ก็ไม่ใช่เป็นการจูงใจหรือหลอกลวงให้จำเลยรับสารภาพตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๑๓๕