แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้เรือของกลางจะใช้ในการประมงยังไม่ได้ โดยยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องยนต์และหางเสือ และยังไม่ได้ต่อปากระวางเรือทำเก๋งก็ดี แต่ก็สำเร็จเป็นตัวลำเรือและตอกหมันยาชันใช้ล่องตามลำคลองได้แล้ว เห็นได้ว่าอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้อันแท้จริง ไม่ใช่ทำขึ้นเพียงชั่วคราวเพื่อลวงหรือพราง โดยเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมายจึงไม่ใช่ไม้แปรรูป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไม้หวงห้ามแปรรูป ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โดยจำเลยไม่มีเหตุจะอ้างได้ตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๗, ๔๘, ๗๓ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๗ และริบของกลาง
จำเลยให้การว่า ไม้ที่ถูกจับมานั้นได้ประกอบเป็นเครื่องใช้แล้ว จึงไม่เป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๔๗, ๔๘, ๗๓ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๗ ให้ปรับเป็นเงิน ๓,๒๖๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ไม้ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ไม้ของกลางมีอยู่ ๒ จำนวน จำนวนหนึ่งเป็นไม้แปรรูปแล้วจำนวน ๐.๘๗ ลูกบาศก์เมตร ยังไม่ได้ใช้ทำอะไร อีกจำนวนหนึ่งเป็นไม้ที่จำเลยใช้ต่อเรือแล้ว สภาพของเรือมีสภาพเป็นเครื่องใช้ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔ (๔) ที่แก้ไขแล้วไม่ใช่ไม้แปรรูป พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้แปรรูปเฉพาะจำนวน ๐.๘๗ ลูกบาศก์เมตร ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๗ ให้ปรับ ๑,๐๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ ไม้ของกลางริบ เรือของกลางคืนจำเลย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้เรือของกลางจะใช้ในการประมงยังไม่ได้ โดยยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องยนต์และหางเสือ และยังไม่ได้ต่อปากระวางเรือทำเก๋งก็ดี แต่ก็สำเร็จเป็นตัวลำเรือและตอกหมันยาชันใช้ล่องตามลำคลองได้แล้ว เห็นได้ว่าอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้อันแท้จริง ไม่ใช่ทำขึ้นเพียงชั่วคราวเพื่อลวงหรือพรางโดยเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมายจึงไม่ใช่ไม้แปรรูป
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์