แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รถยนต์โดยสารเลขทะเบียน ร.บ.00844เป็นของซ. นำมาเดินร่วมกับบริษัทจำเลยในเส้นทางสัมปทาน. รถที่เข้ามาเดินร่วมเช่นนี้ต้องตีเบอร์ ใช้ตรา และทาสีของบริษัทจำเลย.ทั้งรถ คนขับ และคนเก็บตั๋ว ต้องอยู่ในระเบียบข้อบังคับของบริษัทจำเลย. บริษัทจำเลยมีสิทธิไล่ออก. ส่วนการจ่ายเงินเดือนให้คนขับและคนเก็บตั๋วเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถ. ดังนี้ แม้รถคันนี้จะเป็นของ ซ.แต่ซ. ยินยอมให้บริษัทจำเลยนำมาใช้เดินรับส่งคนโดยสารบนเส้นทางสัมปทานของบริษัทจำเลย ในกิจการของบริษัทจำเลย ในนามและในฐานะที่เป็นรถของบริษัทจำเลย. หาใช่ ซ. นำมาเดินรับส่งคนโดยสารเป็นส่วนตัวไม่. และการที่บริษัทจำเลยคิดค่าธรรมเนียมจาก ซ. ในการนำรถมาเดินร่วม ก็เป็นวิธีการแบ่งผลประโยชน์รายได้ระหว่างกันอย่างหนึ่ง. ได้ชื่อว่าบริษัทจำเลยมีและใช้รถคันนี้อย่างที่เป็นของบริษัทจำเลยในกิจการของบริษัทจำเลยแล้ว โดยบริษัทจำเลยและ ซ. มีผลประโยชน์ร่วมกันในการนี้. การที่ ส. ได้ยินยอมเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์รับส่งคนโดยสารในกิจการของบริษัทจำเลย โดยที่ ซ.นำเข้ามา.นับว่าส. มีฐานะเป็นลูกจ้างของบริษัทจำเลยปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์รับส่งคนโดยสารในทางการที่จำเลยจ้างด้วย. ใครจะเป็นผู้จัดหา ส. มาขับรถไม่สำคัญ. และแม้ ซ.จะเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้ส.ก็เป็นเพียงข้อตกลงภายในระหว่างบริษัทจำเลยกับ ซ. ซึ่งมีผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นการปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทจำเลยเท่านั้น. ไม่ทำให้การเป็นนายจ้างและลูกจ้างระหว่างบริษัทจำเลยกับ ส.เปลี่ยนแปลงไป.เมื่อส.ปฏิบัติหน้าที่ขับรถในกิจการของบริษัทจำเลย. บริษัทจำเลยย่อมต้องร่วมรับผิดกับ ส.ในผลแห่งละเมิดซึ่งส. กระทำไปนั้นด้วย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับสัมปทานเดินรถยนต์ จำเลยนำรถคันหมายเลขทะเบียน ร.บ.00844 เข้ามาวิ่งร่วม นายแสวงลูกจ้างจำเลยขับรถดังกล่าวด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังชนรถยี่ห้อปอนเตี๊ยกของนายวัฒนะโจทก์ซึ่งนั่งมาในรถปอนเตี๊ยกด้วยได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 151,695 บาท ฯลฯ จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้จัดหาผู้ขับรถยนต์มาปฏิบัติงานในธุรกิจของจำเลย นายเซี้ยมเป็นเจ้าของรถหมายเลขทะเบียนดังกล่าวและนายแสวงเป็นลูกจ้างนายเซี้ยมไม่ได้เป็นลูกจ้างจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 54,260 บาท ฯลฯ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ในข้อที่ว่านายแสวงเป็นลูกจ้างของจำเลยหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยรับว่ารถยนต์โดยสารเลขทะเบียน ร.บ.00844 เป็นของนายเซี้ยม แซ่โง้ว นำมาเดินร่วมกับบริษัทจำเลยในเส้นทางสัมปทานระหว่างกรุงเทพ – ปราณบุรี โดยบริษัทจำเลยคิดค่าธรรมเนียมในการเข้ามาเดินร่วม รถที่เข้ามาเดินร่วมเช่นนี้ต้องตีเบอร์ ใช้ตราและทาสีของบริษัทจำเลย ทั้งรถ คนขับ และคนเก็บตั๋ว ต้องอยู่ในระเบียบข้อบังคับของบริษัทจำเลย ถ้าคนขับหรือคนเก็บตั๋วประพฤติผิดระเบียบ บริษัทจำเลยมีสิทธิไล่ออกได้ ส่วนการจ่ายเงินเดือนให้คนขับและคนเก็บตั๋วเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถ ตามพฤติการณ์ที่ปฏิบัติต่อกันดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้รถคันนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของนายเซี้ยม แต่นายเซี้ยมได้ยินยอมให้บริษัทจำเลยนำมาใช้เดินรับส่งคนโดยสารบนเส้นทางสัมปทานของบริษัทจำเลยในกิจการของบริษัทจำเลย ในนามและฐานะที่เป็นรถของบริษัทจำเลย หาใช่นายเซี้ยมนำมาเดินรับส่งคนโดยสารเป็นส่วนตัวไม่ และการที่บริษัทจำเลยคิดค่าธรรมเนียมจากนายเซี้ยมในการนำรถมาเดินร่วม ก็เป็นวิธีการแบ่งผลประโยชน์รายได้ระหว่างกันอย่างหนึ่ง ได้ชื่อว่าบริษัทจำเลยมีและใช้รถคันนี้อย่างที่เป็นของบริษัทจำเลยในกิจการของบริษัทจำเลยแล้ว โดยบริษัทจำเลยและนายเซี้ยมมีผลประโยชน์ร่วมกันในการนี้ สำหรับนายแสวงคนขับรถได้ยินยอมเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์รับส่งคนโดยสารในกิจการของบริษัทจำเลย โดยมีสินจ้างเป็นเงินเดือนและต้องอยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับของบริษัทจำเลย ถ้าประพฤติผิดระเบียบ บริษัทจำเลยมีสิทธิไล่ออกได้ โดยที่นายเซี้ยมกับบริษัทจำเลยมีผลประโยชน์ร่วมกันดังกล่าวมาแล้ว การที่นายเซี้ยมนำนายแสวงเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์รับส่งคนโดยสารในกิจการของบริษัทจำเลยและอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของบริษัทจำเลย เช่นนี้นับว่านายแสวงมีฐานะเป็นลูกจ้างของบริษัทจำเลย ปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์รับส่งคนโดยสารในทางการที่จำเลยจ้างด้วย ใครจะเป็นผู้จัดหานายแสวงมาขับรถไม่สำคัญ และแม้นายเซี้ยมจะเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้นายแสวง ก็เป็นเพียงข้อตกลงภายในระหว่างบริษัทจำเลยกับนายเซี้ยมซึ่งมีผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นการปฏิบัติตามระเบียบของบริษัทจำเลยเท่านั้น ไม่ทำให้การเป็นนายจ้างและลูกจ้างระหว่างบริษัทจำเลยกับนายแสวงเปลี่ยนแปลงไป เมื่อฟังได้ว่านายแสวงเป็นลูกจ้างของบริษัทจำเลย ปฏิบัติหน้าที่ขับรถยนต์รับส่งคนโดยสารในกิจการของบริษัทจำเลยในทางการที่จ้าง บริษัทจำเลยย่อมต้องร่วมรับผิดกับนายแสวงในผลแห่งละเมิดซึ่งนายแสวงได้กระทำไปนั้นด้วย พิพากษายืน.