คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไปตามคำสั่งศาลเสร็จสิ้นแล้ว และไม่ปรากฏว่าได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาจำเลยย่อมไม่มีอำนาจที่จะรื้อฟื้นขอให้ขายที่ดินใหม่ได้อีก

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาและมีคำบังคับให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์เป็นที่ดิน 2 แปลงประกาศขายทอดตลาด เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีกระทำการขายทอดตลาดไปแล้วนั้น จำเลยได้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าราคาที่แปลงหนึ่งยังต่ำอยู่ไม่ควรขาย ส่วนราคาที่อีกแปลงหนึ่งไม่คัดค้าน แล้วจำเลยยื่นคำแถลงต่อศาลขอให้เอาที่ดินแปลงที่จำเลยคัดค้านออกประกาศขายใหม่

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถือว่าการขายทอดตลาดได้เสร็จเด็ดขาดไปแล้ว ไม่อาจจะอนุญาตให้เอาที่ดินแปลงที่จำเลยคัดค้านออกขายใหม่ได้อีก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ที่จำเลยฎีกาว่า ประกาศขายที่ดิน 2 แปลงนี้ผิดพลาดไปจากความจริงนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีจะประกาศบอกประเภทที่ดินกลับกัน ก็ไม่ทำให้การขายทอดตลาดเสียไป เพราะตามประกาศก็แจ้งไว้ว่าที่ดินแปลงใดโฉนดเลขที่เท่าใด ซึ่งผู้เข้าสู้ราคาหรือคนทั่วไปมีสิทธิตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ได้ ตามประกาศของเจ้าพนักงานบังคับคดีอยู่แล้ว

ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยได้คัดค้านขึ้นทันทีว่า ที่นาที่ขายทอดตลาดได้ ราคายังต่ำไป มิได้คัดค้านภายหลังการขายทอดตลาดศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเสร็จสิ้นไปแล้ว จำเลยจึงคัดค้านขึ้น หาใช่จำเลยคัดค้านก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะตกลงขายให้แก่ผู้ให้ราคาสูงสุดดังที่จำเลยกล่าวอ้างไม่ เมื่อฟังว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายทอดตลาดที่ดินเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ซื้อทอดตลาดย่อมได้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา อันจะเป็นเหตุให้จำเลยยกขึ้นคัดค้านได้ จำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะร้องขอให้ขายที่ดินนาใหม่อีก

พิพากษายืน

Share