คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4359/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ช. เคยเป็นกรรมการบริษัทจำเลย และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย ช.ได้เข้าประชุมผู้ถือหุ้นจำเลยตลอดมาเมื่อช. ไปติดต่อและทำสัญญาซื้อสินค้ากับโจทก์ ก็แสดงนามบัตรว่าทำงานกับจำเลยทั้งจำเลยมิได้ปฏิเสธการที่ ช. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์เป็นเวลานานกว่าปี ดังนี้ พฤติการณ์เท่ากับจำเลยได้รับรู้ยอมให้ ช.เชิด ตัวเองเป็นตัวแทนของจำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าสั่งซื้อสินค้าเครื่องมือวิทยาศาสตร์จากโจทก์ เป็นเงิน 50,616 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยสั่งซื้อหรือรับสินค้าจากโจทก์ความจริงโจทก์ขายสินค้าให้นายชาญชัย ตรีสุขศิริวัฒนะ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 50,616 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นตามที่คู่ความนำสืบรับกันว่า นายชาญชัย ตรีสุขศิริวัฒนะ เคยเป็นกรรมการบริษัทเชียงใหม่โชตนา จำกัด จำเลยมาก่อน ขณะนี้ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของจำเลย มีข้อวินิจฉัยว่าจำเลยได้สั่งซื้อและรับสินค้าจากโจทก์กับค้างชำระหนี้โจทก์หรือไม่ ได้ความจากนายสันติ เคหะสุขเจริญพยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของโจทก์ว่า เมื่อปลายปี พ.ศ.2524 นายชาญชัย ตรีสุขศิริวัฒนะ ไปติดต่อซื้อสินค้ากับพยานโดยแสดงนามบัตรว่าทำงานกับจำเลยตามเอกสารหมาย จ.16 เนื่องจากไม่มีสินค้าในตอนนั้น นายชาญชัยจึงทำสัญญาซื้อสินค้ากับโจทก์พร้อมกับวางเงินมัดจำจำนวน 10,656 บาทไว้ ตามเอกสารหมาย จ.17 และ จ.11 หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน เมื่อสินค้าตามสั่งมาจากต่างประเทศ จึงได้จัดส่งสินค้าให้จำเลย ซึ่งนายกิตติ เล็กสมบูรณ์ ผู้จัดการสาขาบริษัทสากลทรานสปอร์ทเตชั่น จำกัด ได้รับขนสินค้าโจทก์ส่งแก่จำเลยตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2525 ตามเอกสารหมาย ป.จ.1 แล้วนั้น เห็นว่า หากจำเลยมิได้รู้เห็นการสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ อย่างน้อยเมื่อจำเลยได้รับสินค้าจากโจทก์ก็ควรแจ้งหรือจัดส่งสินค้าคืนโจทก์ในเวลาอันสมควรมิใช่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเป็นเวลานานกว่าปี ต่อเมื่อโจทก์มีหนังสือทวงถามให้ชำระหนี้ตามเอกสารหมาย จ.12 จำเลยจึงเพิ่งจะตอบปฏิเสธ ถึงกระนั้นนายอานนท์ ศิลมัย ผู้จัดการจำเลยก็รับรู้ตลอดว่า นายชาญชัยสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และมิได้ทักท้วง พิเคราะห์กรณีที่นายชาญชัยเคยเป็นกรรมการจำเลย และปัจจุบันก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของจำเลย กับได้เข้าประชุมผู้ถือหุ้นจำเลยตลอดมา ประกอบกับจำเลยมิได้ปฏิเสธการสั่งซื้อสินค้าโจทก์เป็นเวลานานกว่าปี จึงมีพฤติการณ์เท่ากับว่าจำเลยได้รับรู้ยอมให้นายชาญชัย ตรีสุขศิริวัฒนะ เชิดตัวเองเพื่อให้โจทก์หลงเชื่อว่านายชาญชัยเป็นตัวแทนของจำเลย การกระทำของนายชาญชัยดังกล่าว จำเลยจึงต้องผูกพันรับผิดต่อโจทก์ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องแก่โจทก์ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share