แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 นำเอกสารปลอมพร้อมด้วยเงิน 5,000 บาทมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานทำหน้าที่ช่วยเสมียนทะเบียนยานพาหนะ เพื่อให้จัดการจดทะเบียนรถยนต์ให้ จำเลยที่ 2 รับเอกสารปลอมกับเงินนั้นไว้ โดยตกลงรับดำเนินการให้ โดยจำเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าเป็นเอกสารปลอม จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานร่วมกันใช้เอกสารปลอม จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ และจำเลยที่ 2 มีความผิดฐานรับเงินสำหรับตนเองเพื่อกระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่อยู่แล้ว จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อีกระทงหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ นำเอกสาร ๓ ฉบับเกี่ยวกับรถยนต์เก๋งโตโยต้าคันหมายเลขประจำเครื่อง ๒ ที ๐๒๐๙๙๑๑ ซึ่งเป็นเอกสารราชการ ๑ ฉบับ อันเป็นเอกสารปลอม ยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนต่อจำเลยที่ ๒ ซึ่งรับราชการประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่ช่วยเสมียนทะเบียนยานพาหนะเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จำเลยที่ ๒ รู้แล้วว่าเอกสาร ๓ ฉบับ นั้นปลอมแต่เห็นแก่อามิสสินจ้างจำนวน ๕,๐๐๐ บาทที่จำเลยที่ ๑ เสนอให้ ได้ทำเรื่องราวเสนอต่อพันตำรวจโทบัญญัติ สู่พานิช นายทะเบียนยานพาหนะประจำจังหวัดขอนแก่น โดยใช้เอกสารปลอมดังกล่าว พันตำรวจโทบัญญัติ สู่พานิชหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงจึงได้เซ็นอนุญาตให้รถยนต์คันดังกล่าวได้รับจดทะเบียนเลข ข.ก.๐๗๘๕๐ มีนายจำรัส พงษ์การุณเป็นเจ้าของ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการร่วมกันอ้างหรือใช้เอกสารปลอม และการกระทำของจำเลยที่ ๑ เป็นการให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน และการกระทำของจำเลยที่ ๒ เป็นการกระทำในตำแหน่งอันมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่พันตำรวจโทบัญญัติ สู่พานิช และจำเลยที่ ๑ กระทำผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ ๒ ในการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๘, ๑๔๔, ๑๔๙, ๑๕๗, ๘๓, ๘๖, ๙๑ ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๘, ๘๓ ให้ระหว่างโทษตามมาตรา ๒๖๔, ๒๖๕ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๖๕ อันเป็นบทหนักจำคุก ๕ ปี ผิดตามมาตรา ๑๔๔ จำคุก ๕ ปี และผิดตามมาตรา ๑๔๙, ๘๖ จำคุก ๓๓ ปี ๔ เดือน จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ จำคุกจำเลยที่ ๑ รวม ๒๑ ปี ๘ เดือน จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามมาตรา ๒๖๘, ๘๓ ให้ระวางโทษตามมาตรา ๒๖๔, ๒๖๕ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๖๕ อันเป็นบทหนักตามมาตรา ๙๐ จำคุก ๕ ปี ผิดตามมาตรา ๑๔๙ จำคุกตลอดชีวิต ให้เปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก ๕๐ ปี จำคุกจำเลยที่ ๒ รวม ๕๕ ปี ริบเอกสารปลอมของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ฐานใช้เอกสารปลอมและฐานให้สินบนเจ้าพนักงานกระทงละ ๒ ปี รวมจำคุก ๔ ปี จำเลยที่ ๑ รับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๗๘ จำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๒ ปี ข้อหาอื่นให้ยก จำคุกจำเลยที่ ๒ ฐานใช้เอกสารปลอม ๒ ปี และฐานเจ้าพนักงานรับสินบน ๑๐ ปี รวมจำคุก ๑๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าใบเสร็จรับเงินชั่วคราวของบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แสดงว่า บริษัทขายรถยนต์เก๋งโตโยต้าหมายเลขประจำเครื่อง ๒ ที ๐๒๐๙๙๑๑ ให้แก่นายจำรัส พงษ์การุณ ๑ ฉบับ หนังสือของผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แจ้งการจำหน่ายรถยนต์เก๋งโตโยต้าหมายเลขประจำเครื่อง ๒ ที ๐๒๐๙๙๑๑ ถึงหัวหน้าแผนกรถยนต์ ๑ ฉบับ และหนังสือของนายทะเบียนยานพาหนะประจำจังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรี ถึงนายทะเบียนยานพาหนะประจำจังหวัดขอนแก่น เรื่องขอรับรองหลักฐานการลงบัญชีรับจำหน่ายรถยนต์เก๋งโตโยต้าหมายเลขประจำเครื่อง ๒ ที ๐๒๐๙๙๑๑ ซึ่งเป็นเอกสารราชการ ๑ ฉบับ เป็นเอกสารปลอม และจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานนำเอกสารปลอมทั้ง ๓ ฉบับทำเรื่องราวขอจดทะเบียนรถยนต์หมายเลขประจำเครื่อง ๒ ที ๐๒๐๙๙๑๑ ต่อพันตำรวจโทบัญญัติ สู่พานิช นายทะเบียนยานพาหนะประจำจังหวัดขอนแก่น และพันตำรวจโทบัญญัติ สู่พานิช อนุญาตได้เลขทะเบียน ข.ก.๐๗๘๕๐ รูปเรื่องน่าเชื่อว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้นำเอกสารปลอมทั้ง ๓ ฉบับ พร้อมด้วยเงิน ๕,๐๐๐ บาท ไปมอบให้จำเลยที่ ๒ เพื่อให้จัดการจดทะเบียนรถยนต์ให้ และจำเลยที่ ๒ รับเอกสารปลอมกับเงิน ๕,๐๐๐ บาทนั้นไว้จากจำเลยที่ ๑ โดยตกลงรับดำเนินการจดทะเบียนรถยนต์ให้ตามที่ตกลงกัน ซึ่งจำเลยทั้งสองรู้อยู่แล้วว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม เห็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดร่วมกันฐานใช้เอกสารปลอม จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานให้เงินเจ้าพนักงานเพื่อให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ และจำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานรับเงินสำหรับตนเองเพื่อกระทำการโดยมิชอบด้วยหน้าที่ การที่จำเลยที่ ๑ นำเอกสารปลอมกับเงิน ๕,๐๐๐ บาทไปให้แก่จำเลยที่ ๒ เพื่อให้จัดการจดทะเบียนรถยนต์ให้ การกระทำของจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการรับเงินสินบนของจำเลยที่ ๒ ดังนั้นจำเลยที่ ๑ ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๙
พิพากษายืน