คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2372/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหลังจากนั้นผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินหลายประการ จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถจัดการแบ่งปันมรดกได้ ตามคำแถลงของผู้ร้องและผู้คัดค้านนั้น เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา คำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไป และการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้ร้อง จะรับมรดกความกันไม่ได้ จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้คัดค้านที่ขอให้บังคับผู้ร้องให้จัดการแบ่งมรดกตามคำสั่งของศาลชั้นต้นอีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

ย่อยาว

คดีนี้ ผู้ร้องและผู้คัดค้านทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยผู้คัดค้านยอมให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ศาลไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งแต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก หลังจากนั้นผู้ร้องกับผู้คัดค้านมีข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตายหลายประการ จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถจัดการแบ่งปันมรดกได้ ข้อโต้แย้งปรากฏตามคำแถลงของผู้ร้องและผู้คัดค้าน

ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องจัดการแบ่งมรดกตามพินัยกรรม

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น

ผู้คัดค้านทั้งสามฎีกา

ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ผู้ร้องถึงแก่กรรม

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกของพระยาอิศรภักดีธรรมวิเทต เมื่อผู้ร้องถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาคำสั่งของศาลที่แต่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกจึงไม่มีผลต่อไป และการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นการเฉพาะตัวของผู้ร้อง จะรับมรดกความกันไม่ได้ศาลฎีกาไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาของผู้คัดค้านที่ขอให้บังคับผู้ร้องจัดการแบ่งมรดกตามคำสั่งของศาลชั้นต้น จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา

Share