คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4348/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ขับขี่เสพหรือรับเข้าร่างกายซึ่งวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เป็นเหตุให้ ป. ได้รับอันตรายสาหัสและ ว.ถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯมาตรา 43(2),43 ทวิ วรรคหนึ่ง,157 ทวิ วรรคสอง กับการที่จำเลยขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงในขณะมีอาการมึนเมาเพราะเสพสุราและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการกระทำความผิดโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ ป. ได้รับอันตรายสาหัสและ ว.ถึงแก่ความตายนั้นเป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกันและเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ ป. ได้รับอันตรายสาหัสและ ว.ถึงแก่ความตายเช่นเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2535 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์น้ำมันไปตามถนนพหลโยธิน ได้เสพเข้าร่างกายซึ่งวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทแอมเฟตามีน (ยาม้า) อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงเมื่อถึงทางแยกบริเวณใต้สะพานลอยลาดพร้าวรถของจำเลยเสียหลักแล่นเข้าชนรถยนต์ของทางราชการตำรวจเสียหายชนถูกจ่าสิบตำรวจวิมาน บุตรรัตน์ เจ้าพนักงานจราจรขณะปฏิบัติหน้าที่จนถึงแก่ความตายและแล่นทับนายประชุม สินทเธอ จนได้รับอันตรายสาหัส แล้วหลบหนีไม่ช่วยเหลือและไม่แสดงตัว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 291, 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 43 ทวิ, 78, 157, 157 ทวิ, 160, 162กับเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43, 43 ทวิ, 157, 157 ทวิ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 8 ปี และความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 78 วรรคแรก, 160 วรรคท้าย จำคุก 3 เดือนรวมจำคุก 8 ปี 3 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 ปี 1 เดือน 15 วัน เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
โจทก์อุทธรณ์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นหลายกรรม ขอให้ลงโทษทุกกรรม และโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 157 ทวิหนักกว่าโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 157 ทวิ วรรคสอง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาโดยอัยการสูงสุดได้รับรองให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามฎีกาของโจทก์ที่ว่า การกระทำของจำเลยในข้อหาผู้ขับขี่เสพหรือรับเข้าร่างกายซึ่งวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท กับการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัสเป็นการกระทำหลายกรรมหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพเข้าร่างกายซึ่งวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทแอมเฟตามีนเป็นเหตุให้แล่นทับผู้เสียหายจนได้รับอันตรายสาหัสและชนผู้ตายจนถึงแก่ความตายอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 43(2), 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 157 ทวิ วรรคสอง กับการที่จำเลยขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงในขณะมีอาการมึนเมาเพราะเสพสุราวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้รถจำเลยแล่นทับผู้เสียหายจนได้รับอันตรายสาหัสและชนผู้ตายจนถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 เป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกัน และเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส และผู้ตายถึงแก่ความตายเช่นเดียวกัน จึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
พิพากษายืน

Share