คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4311/2549

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องของผู้ร้องอ้างว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า WILD GEESE ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่โจทก์อ้างว่ามีความเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า WILD TURKY ของโจทก์จนทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า อันเป็นเหตุเดียวกันกับเหตุที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสิบห้าในฐานะนายทะเบียนและคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าขอให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ที่ยกคำคัดค้านของโจทก์และรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของผู้ร้อง ซึ่งหากศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ มีคำวินิจฉัยเห็นพ้องด้วยกับโจทก์ให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ผลแห่งคดีย่อมกระทบถึงสิทธิในเครื่องหมายการค้าของผู้ร้องที่มีอยู่ กรณีจึงเป็นเรื่องที่ผู้ร้องสมัครใจเองเพราะเห็นว่าเป็นการจำเป็นเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิตนที่มีอยู่โดยมีสิทธิยื่นคำร้องเข้ามาในคดีที่อยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 57 (1)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 15 และให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนการค้า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 15 และให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “WILD GEESE”
จำเลยทั้งสิบห้าให้การขอให้ยกฟ้อง
ก่อนสืบพยาน โลดสตาร์ แอนสตัลท์ โดยนางเนตยา ผู้รับมอบอำนาจได้ยื่นคำร้องลงวันที่ 29 กันยายน 2548 อ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า “WILD GEESE” ซึ่งนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้มีคำสั่งรับจดทะเบียนไว้ จึงร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (2) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ต่อมาผู้ร้องจึงยื่นคำร้องลงวันที่ 10 ตุลาคม 2548 อ้างว่าผู้ร้องอยู่ในฐานะเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีนี้ จึงร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1)
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (2) หรือร้องสอดเข้ามาเพื่อให้ได้รับความรับรอง คุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) หรือไม่ เห็นสมควรวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ร้องที่ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) เสียก่อน ได้ความว่า ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศลิคเตนสไตน์ ผู้ร้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า “WILD GEESE” ซึ่งผู้ร้องได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพื่อใช้กับสินค้าจำพวกที่ 32 และ 33 โจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านต่อนายทะเบียน แต่นายทะเบียนมีคำวินิจฉัยยกคำคัดค้านและคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 15 มีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์จึงฟ้องจำเลยทั้งสิบห้าเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องอ้างว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า “WILD GEESE” ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่โจทก์อ้างว่ามีความเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าคำว่า “WILD TURREY” ของโจทก์ จนทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า ดังนั้น การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสิบห้าเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ยกคำคัดค้านของโจทก์และรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของผู้ร้องก็โดยเหตุที่โจทก์อ้างว่าเครื่องหมายการค้าของผู้ร้องมีความเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ซึ่งหากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำวินิจฉัยเห็นพ้องด้วยกับโจทก์ให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า ผลแห่งคดีย่อมกระทบถึงสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า “WILD GEESE” ของผู้ร้องที่มีอยู่ กรณีจึงเป็นเรื่องที่ผู้ร้องสมัครใจเองเพราะเห็นว่าเป็นการจำเป็นเพื่อยังให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่โดยยื่นคำร้องเข้ามาในคดีนี้ที่อยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น กรณีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (2) หรือไม่ เพราะไม่อาจทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง
พิพากษากลับว่า อนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1) ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share