แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องนอกไปจากบทมาตราที่อ้างได้ ในเมื่อไม่เป็นการเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีสาตราวุธเข้าไปลักทรัพย์เขาถึงในเคหะสถานในเวลาค่ำคืน แต่ขอให้ลงโทษ ตาม ม.293,294 แม้ โจทก์จะสืบสมตามคำบรรยายฟ้องอันเป็นความผิด ตาม ม.295 แล้วก็ตามก็จะลงโทษตามมาตรานั้นไม่ได้ เพราะเป็นการเกินคำขอ
อ้างฎีกาที่ 368/2480 907/2480 และ 1725/2480
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีสาตราวุธเข้าไปลักทรัพย์เขาในเคหะสถานในเวลาค่ำคืนขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๓,๒๙๔
ศาลชั้นต้นเห็นว่าความผิดของจำเลยต้องด้วย ม.๒๙๕ แต่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๓,๒๙๔ อันมีอัตราโทษเบากว่า จะลงโทษตามบทหนักมิได้เป็นการเกินคำขอ จึงลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๔
โจทก์อุทธรณ์ฎีกาต่อมากล่าวว่าแม้จะอ้างบทผิด แต่เมื่อโจทก์ได้บรรยายฟ้องมาชัดเจนเข้า ม.๒๙๕ และสืบสมดังนี้ ก็มีอำนาจลงโทษได้โดยอาศัยวรรค ๔ ของ ม.๑๙๒ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา
ศาลฎีกาตัดสินว่าความในวรรคแรก และวรรค ๔ แห่ง ม.๑๙๒ ประมวลวิธีพิจารณาอาญามิได้ขัดแย้งกัน ศาลจะต้องอ่านควบกันไป ซึ่งคงได้ความว่า ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่ถูกต้องนอกจากบทมาตราที่อ้างได้ในเมื่อการลงโทษนั้นไม่เกินคำขอดังนัยฎีกาที่ ๙๐๗/๒๔๘๐ คดีนี้ศาลจะลงโทษจำเลยตาม ม.๒๙๕ ไม่ได้เพราะเป็นการเกินคำขอไป ตามนัยฎีกาที่ ๓๖๘/๒๔๘๐ และ ๑๓๒๕/๒๔๘๐ ศาลล่างพิพากษามาชอบแล้ว ยืนตาม