คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1515/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าให้จำเลยเช่าช่วง จำเลยให้การว่าเช่ามาด้วยกันนั้น ประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาก็คือความจริงเป็นดังที่โจทก์ฟ้องหรือดังที่จำเลยต่อสู้ฝ่ายใดสืบสม ฝ่ายนั้นก็ชนะ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เช่าบ้านและโรงเรือนมาจากนายขจี แล้วโจทก์ให้จำเลยเช่าช่วงไปบางส่วน บัดนี้โจทก์ไม่พอใจให้จำเลยอยู่ต่อไป จึงขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าโจทก์จำเลยเป็นผู้เช่ามาด้วยกัน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
ศาลชั้นต้นฟังคำพะยานแล้ววินิจฉัยว่า เมื่อปรากฎว่าโจทก์เป็นผู้ทำหนังสือเช่ามาแต่ผู้เดียว จำเลยมิได้มีชื่อในการเข่าด้วยต้องถือว่าจำเลยอยู่โดยอำนาจของโจทก์จำเลยนำสืบไม่สมข้ออ้าง จึงพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์จำเลยเข้าหุ้นกันเช่าที่รายนี้มาด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ส่วนที่ว่าโจทก์จำเลยเป็นหุ้นส่วนกันในการเช่านี้หรือไม่ ไม่เป็นข้อสำคัญที่จะชี้ขาดคดี เพราะโจทก์ตั้งประเด็นขึ้นมาว่า จำเลยเป็นผู้เช่าข่วงจากโจทก์ หากทางพิจารณาข้อเท็จจริงฟังไม่ได้สมดังโจทก์ฟ้อง แต่กลับสมดั่งข้อต่อสู้ของจำเลยแล้ว โจทก์ก็ชนะจำเลยไม่ได้และคดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้สมข้อต่อสู้ของจำเลยจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share