คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ฟ้องว่าจำเลยหาว่า+ทำลายทำนบกั้นน้ำหนองสาธารณะชำรุดเสียหายอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ตามมาตรา 191 นั้นเพียงแต่ โจทก์มีพยานสืบแต่ว่าจำเลยขุดทำนบกั้นน้ำสาธารณะเพื่อระบายน้ำออกไป โดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลย ที่จำเลยกระทำเช่นนั้นจะสามารถอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ กลับปรากฏตามคำพะยานโจทก์อีกว่าถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกันเช่นนี้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 191.
ยังลงโทษจำเลยไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๑๙๑ โดยกล่าวหาว่าจำเลยสมคบกันใช้จอบขุดทำลายทำนบกั้นน้ำหนองไผ่ ซึ่งเป็นหนองสาธารณะชำรุดเสียหาย สามารถอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง แต่ลงโทษเพียงจำคุก ๑ เดือน ปรับคนละ ๕๐ บาท ยกโทษจำเสีย.
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยสามารถอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีพะยานสืบแต่ว่าจำเลยสมคบกันขุดทำนบกั้นน้ำหนองไผ่เพื่อระบายน้ำออกไป โดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลย ที่จำเลยกระทำเช่นนี้สามารถอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ ตามคำพะยานโจทก์กลับปรากฏว่าถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกัน เมื่อโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตาม ม.๑๙๑ เช่นนี้ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
จึงพิพากษายืน

Share