แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยยินยอมให้โจทก์วางท่อระบายน้ำในที่ดินของจำเลยซึ่งตกเป็นทางจำเป็น โดยโจทก์ยอมใช้ค่าทดแทนให้ 30,000 บาท จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะวางท่อระบายน้ำผ่าน แต่หากศาลเห็นว่าจะต้องวางท่อระบายน้ำผ่านก็ขอให้โจทก์ใช้เงินค่าทดแทนแก่จำเลย 5,000,000 บาท การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นว่า โจทก์จะใช้สิทธิวางท่อระบายน้ำในที่ดินของจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1352 ได้หรือไม่เพียงใด ย่อมรวมถึงประเด็นเรื่องค่าทดแทนอยู่ในตัว เพราะโจทก์จะใช้สิทธิดังกล่าวได้หรือไม่เพียงใดจะต้องพิจารณาถึงค่าทดแทนที่โจทก์เสนอด้วย การที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้โจทก์ใช้ค่าทดแทนแก่จำเลย 50,000 บาท จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องหรือนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ดินจำเลย โดยมีที่ดินของบุคคลอื่นคั่นอยู่ 1 แปลง ทางทิศตะวันออกของที่ดินทั้งสามแปลงมีการทำถนนผ่านไปสู่ถนนซอยวัดสังข์กระจาย โดยโจทก์ จำเลย และประชาชนบริเวณดังกล่าวใช้เป็นเส้นทางเข้าออกสู่ถนนซอยวัดสังข์กระจายเป็นเวลากว่า 20 ปี ต่อมาศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าที่ดินที่เป็นถนนดังกล่าวเป็นทางจำเป็น และบริเวณทางจำเป็นดังกล่าวเดิมได้มีการวางท่อระบายน้ำเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำถนนซอยวัดสังข์กระจายเพื่อระบายน้ำฝนและน้ำทิ้งที่ประชาชนในบริเวณดังกล่าวใช้โดยระบายลงสู่ท่อถนนของทางจำเป็นไปออกยังท่อระบายน้ำริมถนนซอยวัดสังข์กระจาย ต่อมาท่อระบายน้ำบริเวณทางจำเป็นในที่ดินของจำเลยดังกล่าวแตก ทำให้โจทก์และประชาชนบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถระบายน้ำเสียออกไปได้ทำให้เกิดน้ำท่วมขังและส่งกลิ่นเหม็น โจทก์จึงติดต่อจำเลยเพื่อขอซ่อมแซมเปลี่ยนท่อระบายน้ำที่แตกชำรุด แต่จำเลยไม่ยินยอม ขอให้จำเลยยอมให้โจทก์วางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ในที่ดินของจำเลย และให้จำเลยรับเงินค่าทดแทน หากจำเลยไม่ตกลงให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา
จำเลยให้การว่า ถนนทางจำเป็นตามคำพิพากษาไม่เคยมีการวางท่อระบายน้ำฝังอยู่ใต้ถนนมาก่อน ดังนั้น โจทก์หรือประชาชนในละแวกนั้นจึงไม่เคยระบายน้ำออกสู่ท่อระบายน้ำริมถนนซอยวัดสังข์กระจาย โดยผ่านทางจำเป็นตามที่โจทก์อ้างมาก่อน และที่ดินของโจทก์ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีการวางท่อระบายน้ำออกสู่ทางสาธารณะ ทางด้านถนนจำเนียรสุข 3 อยู่ก่อนแล้ว โจทก์จึงสามารถวางท่อระบายน้ำจากที่ดินของโจทก์เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าได้ ค่าทดแทนที่โจทก์เสนอมานั้นต่ำเกินไป บริเวณที่โจทก์อ้างว่าได้รับความเดือดร้อนนั้น กรณีที่ไม่มีฝนตกลงมาอย่างมาก น้ำก็จะไม่ท่วมขัง และไม่ไหลเข้าท่วมบ้านโจทก์เพราะที่ดินของโจทก์และข้างเคียงสูงกว่าถนนทางจำเป็นและโจทก์ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องวางท่อกว้างถึง 50 เซนติเมตร แต่สามารถใช้ท่อขนาดกว้าง 20 เซนติเมตร ก็พอต่อการระบายน้ำแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยอนุญาตให้โจทก์วางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ยาวตลอดแนวที่ดินของจำเลย (เฉพาะที่เป็นทางจำเป็น) โดยฝังใต้ดิน และให้จำเลยรับเงินจากโจทก์จำนวน 50,000 บาท เพื่อเป็นค่าทดแทน หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ที่ดินของโจทก์และจำเลยซึ่งอยู่ใกล้กันมีทางออกสู่ซอยวัดสังข์กระจายไปยังถนนเพชรเกษม ทางออกดังกล่าวบางช่วงเป็นทางภาระจำยอม บางช่วงเป็นทางจำเป็น โดยช่วงที่เป็นทางจำเป็นอยู่ในเขตที่ดินของจำเลย พยานโจทก์เบิกความยืนยันทำนองเดียวกันว่า เดิมที่ดินของโจทก์มีท่อระบายน้ำทิ้งฝังผ่านที่ดินของจำเลยในส่วนที่เป็นทางจำเป็นออกไปเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำที่ปากซอยวัดสังข์กระจายเพียงทางเดียว และประชาชนที่อยู่ในละแวกนั้นใช้เป็นทางระบายน้ำทิ้งเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว นอกจากนี้โจทก์ยังมีรูปถ่ายท่อพักซึ่งอยู่ในทางจำเป็นมาแสดง แม้จำเลยจะมีพยานเบิกความยืนยันทำนองเดียวกันว่า ในทางจำเป็นไม่เคยมีท่อระบายน้ำเชื่อมต่อจากที่ดินของโจทก์ออกสู่ปากทางซอยวัดสังข์กระจายก็ตาม แต่พยานเหล่านี้ล้วนเป็นญาติกับจำเลย นอกจากนี้ตามแผนที่ริมถนนมีท่อระบายน้ำทั้งสองฝั่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ท่อระบายน้ำจะมีอยู่เฉพาะในทางภาระจำยอม แต่เว้นช่วงไว้เฉพาะส่วนที่เป็นทางจำเป็น จึงน่าเชื่อว่าเดิมที่ดินของโจทก์และทางจำเป็นซึ่งอยู่ในที่ดินของจำเลยมีท่อระบายน้ำวางเชื่อมต่อเป็นแนวไปตามถนนภาระจำยอมออกสู่ท่อระบายน้ำที่ปากซอยวัดสังข์กระจาย แต่ต่อมาได้แตกชำรุดและอุดตันจริง ส่วนที่จำเลยอ้างว่าโจทก์สามารถวางท่อระบายน้ำจากที่ดินโจทก์ผ่านที่ดินนายสุรศักดิ์โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเพราะมีที่ดินติดกันนั้น จำเลยก็ไม่ได้นำตัวนายสุรศักดิ์มาเบิกความยืนยันแต่อย่างใด เมื่อพิเคราะห์แล้วจะเห็นว่า การที่โครงการดังกล่าวจัดเป็นโครงการที่อยู่อาศัย การทำท่อระบายน้ำเสียย่อมจะต้องใช้เงินลงทุนสูงประกอบกับที่ดินของโจทก์กับโครงการดังกล่าวมีกำแพงคอนกรีตกั้น หากจะสร้างท่อระบายน้ำผ่านย่อมจะต้องทุบกำแพงบางส่วน ทั้งโจทก์นำสืบว่าได้ไปติดต่อขอวางท่อเชื่อมแล้วทางโครงการไม่ยินยอม ดังนั้น เมื่อเทียบกับการที่โจทก์ขอวางท่อระบายน้ำเสียในทางจำเป็นตามแนวเดิม โจทก์ย่อมจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าอย่างแน่นอน โจทก์จึงมีสิทธิที่จะวางท่อระบายน้ำในทางจำเป็นตามแนวที่มีอยู่เดิม
ส่วนที่จำเลยอ้างว่า การวางท่อระบายน้ำผ่านทางจำเป็นทำให้จำเลยได้รับความเสียหายนั้น เห็นว่า ท่อระบายน้ำที่วางอยู่ใต้ดินตามแนวทางจำเป็นซึ่งตามปกติจำเลยก็ไม่สามารถที่จะกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนขัดขวางการใช้ทางจำเป็นได้อยู่แล้ว ทั้งหากจำเลยสร้างตึกแถวให้คนเช่าก็ต้องสร้างท่อระบายน้ำทิ้งเชื่อมกับทางภาระจำยอม ทำให้เห็นได้ว่านอกจากจำเลยไม่ได้รับความเสียหายแล้วกลับได้รับประโยชน์จากการที่โจทก์สร้างท่อระบายน้ำดังกล่าวอีกด้วย
นอกจากนี้ที่จำเลยฎีกาว่า เรื่องค่าทดแทน ศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดประเด็นไว้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 183 การที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้โจทก์ชำระค่าทดแทนแก่จำเลยจึงเป็นการวินิจฉัยนอกคำฟ้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 นั้น เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นว่า โจทก์จะใช้สิทธิวางท่อระบายน้ำในที่ดินของจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1352 ได้หรือไม่เพียงใดนั้น ย่อมรวมถึงประเด็นเรื่องค่าทดแทนอยู่ในตัว เพราะโจทก์จะใช้สิทธิดังกล่าวได้หรือไม่เพียงใดจะต้องพิจารณาถึงค่าทดแทนที่โจทก์เสนอด้วย คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องหรือนอกประเด็นแต่อย่างใด
ปัญหาสุดท้ายที่จำเลยฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ให้โจทก์วางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินไปนั้น เห็นว่า แม้โจทก์จะเบิกความยืนยันไม่ได้แน่ชัดว่าท่อระบายน้ำที่จะวางควรมีขนาดเท่าใด แต่การที่ศาลจะกำหนดขนาดของท่อระบายน้ำย่อมต้องคำนึงถึงพื้นที่และสภาพแวดล้อม เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่าบริเวณที่จะวางท่อระบายน้ำ นอกจากบ้านของโจทก์จำเลยแล้วยังมีบ้านของบุคคลอื่นปลูกอยู่อย่างหนาแน่นย่อมมีปริมาณน้ำที่จะระบายออกมาก ทั้งทางจำเป็นมีสภาพต่ำยังเป็นอิฐ หิน ดิน ทราย มิได้เทคอนกรีต ย่อมมีเศษฝุ่นผงเป็นอันมาก หากท่อระบายน้ำเล็กเกินไปเศษฝุ่นผงที่ตกลงไปจะทำให้ท่อเกิดการอุดตันในเวลาอันรวดเร็วระบายน้ำไม่สะดวก ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้ท่อระบายน้ำที่จะวางมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร จึงเหมาะสมแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.