แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลและที่ตั้งวางลังไม้ซึ่งไม่ใช่แผงลอยจำหน่ายเนื้อสุกรข้างถนน ไม่เป็น ‘สถานการค้า’อันจะพึงประเมินเรียกเก็บภาษีการค้าเพราะความจริงเป็นเรื่องลูกค้ามารับสุกรของจำเลยที่โรงฆ่าสัตว์ ที่จำเลยเอาเนื้อสุกรมาวางไว้บนลังก็เป็นแต่เอามาพักรอไว้เท่านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับอนุญาตฆ่าสุกรซึ่งต้องฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองยะลา เสร็จแล้วนำเนื้อสุกรออกวางบนลังไม้ข้างถนนเพื่อส่งให้ลูกค้า โรงฆ่าสัตว์และที่วางลังไม้ดังกล่าว ไม่เป็นสถานการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 แต่จำเลยว่าเป็นสถานการค้าและประเมินค่ารายปีเกิน 120 บาท ให้โจทก์เสียภาษีการค้า ขอให้ศาลสั่งว่าสถานที่ดังกล่าวไม่ใช่สถานการค้าให้จำเลยงดเก็บภาษี
จำเลยให้การว่า โรงฆ่าสัตว์และที่ดินที่โจทก์ตั้งลังวางเนื้อสุกรจำหน่ายเป็นสถานการค้า มีค่ารายปีกว่า 120 บาท โจทก์จึงต้องเสียภาษีตามที่จำเลยประเมินโจทก์อุทธรณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย ทั้งมิได้ฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยจึงฟ้องจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นสอบ คู่ความรับว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดชี้ขาดให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์แล้ว
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์มิได้ฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นสรรพากรจังหวัดผู้ประเมินเท่านั้นแต่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษาว่าโจทก์ฟ้องจำเลยได้ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีต่อไปแล้วพิพากษาใหม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โรงฆ่าสัตว์และที่วางลังของโจทก์เป็นสถานการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 และมีค่ารายปีตั้งแต่ 120 บาทขึ้นไป จำเลยเรียกเก็บภาษีถูกต้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีเช่นคดีนี้ได้มีคำพิพากษาฎีกาที่ 133/2502 วินิจฉัยว่า โรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลเป็นสถานสาธารณสำหรับผู้ได้รับอนุญาตฆ่าสัตว์ต้องนำสัตว์เข้าไปฆ่า โจทก์หามีเอกสิทธิใด ๆ เป็นของตนโดยเฉพาะไม่ เทศบาลต่างหากเป็นผู้มีโรงฆ่าสัตว์ไว้ให้บรรดาผู้รับอนุญาตฆ่าสัตว์นำสัตว์มาฆ่าตามที่กฎหมายบังคับไว้ จะเกณฑ์ให้เป็นสถานการค้าของผู้นำสัตว์มาฆ่าตามประมวลรัษฎากรมาตรา 78 ไม่ได้ ตามกฎหมายนี้ แม้แต่รถหรือเรือซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนและยานพาหนะอื่นที่เคลื่อนที่ด้วยกำลังคนหรือสัตว์ แม้ใช้เป็นที่ผลิตหรือเก็บสินค้า ก็ไม่ถือเป็นสถานการค้า การวางเนื้อสุกรบนลังเพื่อลูกค้ารับไปจำหน่าย อันเป็นลักษณะเดียวกับการเก็บสินค้าจึงเห็นได้ว่า ไม่เป็นสถานการค้าเช่นกัน แม้แต่แผงลอยที่ค้าเฉพาะอาหารหรือของสด ประมวลรัษฎากร มาตรา 84 ทวิ ก็ยังให้เสียภาษีเพียงกึ่งอัตรา เพียงแต่วางเนื้อสุกรขายบนลังไม้ข้างถนนซึ่งไม่ใช่แผงลอย ก็เห็นได้ชัดว่า กฎหมายไม่ประสงค์เก็บภาษีเลยตามบันทัดฐานที่มีอยู่ดังนี้ ศาลฎีกาจึงเห็นว่า โรงฆ่าสัตว์ไม่เป็นสถานการค้าของจำเลยอันจะพึงประเมินเรียกเก็บภาษีการค้าจากจำเลย ส่วนการที่จำเลยเอาเนื้อสุกรไปตั้งที่ลังไม้ จะถือว่าลังไม้นี้เป็นสถานที่ค้าก็มิได้ มิฉะนั้นแล้ว เอาเนื้อสุกรไปวางที่ใด ก็จะเป็นสถานที่ค้าไปหมด ความจริงเป็นเรื่องลูกค้ามารับสุกรของจำเลยที่โรงฆ่าสัตว์ที่จำเลยเอาเนื้อสุกรมาวางไว้บนลังก็เป็นแต่เอามาพักรอไว้เท่านั้น ลังไม้นั้นจึงไม่ใช่สถานการค้าแต่ประการใด
พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยงดเก็บภาษีการค้าของโจทก์ตามฟ้อง