คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4210/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ทราบวันนัดสืบพยานโดยชอบแล้วไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดี แม้โจทก์จะอ้างว่าเหตุที่มิได้มาศาลตามกำหนดนัดเกิดเพราะรถยนต์ขัดข้องก็มิใช่กรณีที่ศาลจำหน่ายคดีไปโดยผิดหลงหรือผิดระเบียบ อันจะเป็นเหตุให้เพิกถอนคำสั่งได้และการที่โจทก์ขาดนัดพิจารณาก็ไม่มีบทกฎหมายใดให้สิทธิโจทก์ที่จะขอให้พิจารณาใหม่ โจทก์เพียงแต่มีสิทธิที่จะเสนอคำฟ้องเข้ามาใหม่ภายในกำหนดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 200

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน คู่ความทราบวันนัดแล้ว ต่อมาเมื่อถึงวันนัดคู่ความไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดี โจทก์ยื่นคำร้องว่า เหตุที่โจทก์มาศาลไม่ทันตามนัดเพราะรถยนต์ที่โจทก์ขับมาศาลเกิดขัดข้องและไม่สามารถยื่นคำร้องแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ อันเป็นเหตุสุดวิสัย โจทก์ไม่มีเจตนาที่จะประวิงคดีและขาดนัดพิจารณาแต่ประการใด ทั้งจำเลยก็ไม่ได้มาศาล ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องของโจทก์เพื่อพิจารณาเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดี แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม โจทก์ชอบที่จะฟ้องเป็นคดีใหม่ ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยไม่ได้แก้อุทธรณ์จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ทราบวันนัดสืบพยานโดยชอบแล้วไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดี แม้โจทก์จะอ้างว่าเหตุที่โจทก์ไม่ได้มาศาลตามกำหนดนัดเกิดเพราะรถยนต์ขัดข้องก็ตาม ก็มิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีไปโดยผิดหลงหรือผิดระเบียบอันจะเป็นเหตุให้เพิกถอนคำสั่งได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีจึงชอบแล้ว และการที่โจทก์ขาดนัดพิจารณาก็ไม่มีบทกฎหมายใดให้สิทธิโจทก์ที่จะขอให้พิจารณาใหม่ โจทก์เพียงแต่มีสิทธิที่จะเสนอคำฟ้องเข้ามาใหม่ภายในกำหนดอายุความเท่านั้นทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 200 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share