คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4203/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ประกันขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 โดยนำสมุดเงินฝากประจำของธนาคาร ก. มาเป็นหลักประกัน เมื่อผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้มีหนังสือแจ้งธนาคาร ก. ถอนเงินฝากมาชำระค่าปรับ ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้บังคับเอาแก่ทรัพย์ที่เป็นหลักประกันแล้ว เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนดำเนินการให้ธนาคารจัดส่งเงินตามสมุดเงินฝากประจำดังกล่าวมาชำระค่าปรับเท่านั้น แม้เจ้าพนักงานศาลมิได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลชั้นต้นก็เป็นความบกพร่องของเจ้าพนักงานศาลซึ่งเป็นเรื่องทางธุรการ กรณีไม่ต้องบังคับคดีโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะต้องออกหมายบังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันมีคำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 อีก ดังนี้ แม้จะล่วงเลยระยะเวลามากว่า 10 ปี ก็ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติดังกล่าว จึงไม่มีเหตุคืนหลักประกันให้ผู้ประกัน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา ระหว่างพิจารณาผู้ประกันยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 โดยวางสมุดเงินฝากประจำของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี เป็นหลักประกัน ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 2 ไม่มาศาลตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกัน และให้มีหนังสือแจ้งธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี ให้ถอนเงินฝากมาชำระค่าปรับ
ผู้ประกันยื่นคำร้องว่า พนักงานอัยการไม่ดำเนินการบังคับคดีตามคำบังคับของศาลเป็นระยะเวลาล่วงเลยมานานเกินกว่า 10 ปีแล้ว จึงพ้นระยะเวลาบังคับคดีตามสัญญาประกัน ขอให้คืนหลักประกันแก่ผู้ประกัน และเพิกถอนคำสั่งอายัดหลักประกันด้วย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่ขาดอายุความบังคับคดี ยกคำร้อง
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า ผู้ประกันยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 โดยวางสมุดเงินฝากประจำของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี บัญชีเลขที่ 006 – 3 – 08178 – 7/01 มียอดเงินฝาก 120,000 บาท เป็นหลักประกัน ศาลชั้นต้นตีราคา 119,000 บาท ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคม 2541 ผู้ประกันผิดสัญญาประกันโดยไม่ส่งตัวจำเลยที่ 2 ตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ปรับผู้ประกันเต็มตามสัญญาประกัน และให้มีหนังสือแจ้งธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี ให้ถอนเงินฝากมาชำระค่าปรับ แต่ศาลชั้นต้นยังมิได้ดำเนินการมีหนังสือแจ้งให้ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี ส่งเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ประกันมาชำระค่าปรับ
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาผู้ประกันว่า มีเหตุคืนหลักประกันให้ผู้ประกันหรือไม่ เห็นว่า ผู้ประกันขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 โดยนำสมุดเงินฝากประจำของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี มาเป็นหลักประกัน เมื่อผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้มีหนังสือแจ้งธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาธนบุรี ถอนเงินฝากมาชำระค่าปรับ ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้บังคับเอาแก่ทรัพย์ที่เป็นหลักประกันแล้ว เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนดำเนินการให้ธนาคารจัดส่งเงินตามสมุดเงินฝากประจำดังกล่าวมาชำระค่าปรับเท่านั้น แม้เจ้าพนักงานศาลมิได้ดำเนินการตามคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวก็เป็นความบกพร่องของเจ้าพนักงานศาลซึ่งเป็นเรื่องทางธุรการ กรณีไม่ต้องบังคับคดีโดยเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะต้องออกหมายบังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 อีก ดังนี้ แม้จะล่วงเลยระยะเวลามากว่า 10 ปี ก็ไม่ต้องด้วยบทบัญญัติดังกล่าว จึงไม่มีเหตุคืนหลักประกันให้ตามที่ผู้ประกันฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้ประกันฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share