คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปรากฎจากฟ้องและกระบวนพิจารณาว่าโจทก์ประสงค์เพียงขอห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องแก่ทรัพย์มรดก โดยอ้างว่าจำเลยไม่ใช่บุตรของเจ้ามรดก ดั่งนี้ ไม่มีประเด็นเรื่องแบ่งมรดก ศาลจึงไม่พิพากษาให้แบ่งกันในชั้นนี้
ฟ้องขอห้าม แต่เสียค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลตัดสินให้ในประเด็นเรื่องขอห้ามแล้ว ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียมาอย่างคดีทุนทรัพย์นั้น คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เ็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอินทร์ ขอให้ศาลพิพากษาว่ามที่ดิน ๒ แปลงเป็นสินสมรมระหว่างโจทก์กับนายอินทร์และเป็นส่วนมรดกของนายอินทร์ตกได้แก่โจทก์ผู้เดียว ทั้งขอให้พิพากษาว่าจำเลยไม่ใช่บุตรของนายอินทร์ จึงไม่มีสิทธิรับมรดกเลย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยเป็นบุตรและมีสิทธิรับมรดกของนายอินทร์นั้นชอบแล้ว ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า ถ้าศาลฟังว่าจำเลยเป็นทายาทของนายอินทร์แล้ว ก็ควรพิพากษาให้แบ่งมรดกของนายอินทร์ไปทีเดียวนั้น จากการดำเนินกระบวนพิจารณาของโจทก์ เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์เพียงขอห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องแก่ทรัพย์มรดกโดยอ้างว่าจำเลยไม่ใช่บุตรของนายอินทร์เท่านั้น ที่ดิน ๒ แปลงจะส่วนเป็นมรดกของนายอินทร์เท่าใด คู่ความไม่ได้ยกประเด็นขึ้นว่ากล่าวหากันมา จึงยังไม่สมควรพิพากษาให้แบ่งกันในชั้นนี้ แต่ควรไปว่ากล่าวกันต่อไปใหม่
จึงพิพากษายืน ให้คืนค่าขึ้นศาลที่โจทก์เสียมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ คงเรียกไว้แต่อย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์

Share