คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อจำเลยแพ้คดีโจทก์ แล้วยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษา
โจทก์จึงขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีตามคำบังคับที่ศาลมีไว้ต่อจำเลยในกำหนด ต่อมาจำเลยจะมายื่นคำร้องว่าโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมกันนอกศาลแล้วขอมิให้มีการบังคับคดีไม่ได้ในเมื่อการประนีประนอมยอมความนั้นโจทก์อ้างว่าเกิดขึ้นโดยถูกข่มขู่เพราะคู่ความชอบที่จะมาทำประนีประนอมกันในศาล ศาลจะได้รู้เห็นและได้พิจารณาว่าการประนีประนอมนั้นถูกต้องหรือไม่ถ้าถูกจะได้พิพากษาให้เป็นไปตามที่ตกลง และถือว่าเป็นการที่ให้ศาลได้รับรู้เกี่ยวกับการบังคับคดีเมื่อทำกันนอกศาลศาลก็ไม่รู้ และถ้ายอมรับฟัง การบังคับคดีก็จะไม่อาจเป็นไปได้โดยราบรื่นเพราะฝ่ายที่ถูกบังคับย่อมจะมีข้ออ้างมาร้องต่างๆ

ย่อยาว

ปัญหาที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเป็นปัญหาเกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาในคดีเรื่องนี้

เดิมศาลจังหวัดกาญจนบุรีพิพากษาว่า ทรัพย์สินในไร่ฝ้าย อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ที่จำเลยยึดเอาของโจทก์ไปตามบัญชีท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ ให้จำเลยคืนให้โจทก์ตามสภาพเดิม มิฉะนั้นก็ให้ใช้ราคาแทนกับให้จำเลยใช้ราคาฝ้าย 3,840,000 บาทแก่โจทก์พร้อมกับค่าทนาย ซึ่งคดีนี้สิ้นสุดเพียงศาลอุทธรณ์

เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์ขอให้ศาลออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาต่อไป

จำเลยยื่นคำคัดค้านว่า ได้มีการทำสัญญาประนีประนอมกับโจทก์ในเรื่องการปฏิบัติตามคำพิพากษาที่จำเลยแพ้คดีแล้ว สิทธิใด ๆ ของโจทก์ที่มีอยู่ก่อนวันทำสัญญาย่อมระงับไปโดยสิ้นเชิง เพราะต่างได้สิทธิใหม่ ตามประมวลแพ่งฯ มาตรา 850, 852

โจทก์แถลงแก้ว่า คำพิพากษาหรือคำสั่งใดย่อมผูกพันกระบวนพิจารณาของศาลที่มีคำพิพากษาและคำสั่งอยู่จนถึงวันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข กลับหรืองดเสียโดยศาลสูง แต่นี่ไม่มี ก็ต้องบังคับไปตามเดิมทั้งการประนีประนอมที่จำเลยกล่าวอ้างเกิดเพราะการข่มขู่ซึ่งโจทก์ได้บอกล้างไปแล้ว จึงตกเป็นโมฆะเมื่อศาลบังคับคดีโจทก์ยอมให้หักเงิน 700,000 บาทออก

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว สั่งให้บังคับคดีไปตามโจทก์ขอ

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคดีนี้จำเลยแพ้คดีซึ่งถึงที่สุดแล้วโจทก์ก็ขอให้ศาลบังคับคดีภายในกำหนดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 71 จำเลยมิได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลที่ออกบังคับแก่จำเลยจำเลยจะอ้างเอาสัญญาประนีประนอมนอกศาลมาเป็นเหตุมิให้มีการบังคับคดีได้หรือไม่ ถ้าคู่ความจะทำสัญญาดังกล่าวกันในศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138 ศาลก็จะได้มีโอกาสพิจารณาว่าข้อตกลงหรือการประนีประนอมนั้นฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ก็จะได้พิพากษาไปตามนั้น แต่นี่มิได้ปฏิบัติการตาม มาตรา 138 ทั้งโจทก์ยังอ้างว่ามีการข่มขู่ได้บอกล้าง เป็นโมฆะ เมื่อสัญญาที่จำเลยอ้างยังมีข้อโต้เถียงกันอยู่ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวกันต่างหากอีกเรื่องหนึ่ง จำเลยจะยกเอาสัญญาที่ทำกันนอกศาล หรือยกเอาเหตุที่ตนฟ้องโจทก์เนื่องแต่สัญญานั้นมาเป็นเหตุมิให้มีการบังคับคดี เพื่อตนจะไม่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับของศาลในคดีเรื่องนี้หาได้ไม่ เพราะถ้ายอมให้ทำเช่นนั้นแล้ว การบังคับคดีตามคำพิพากษาก็ย่อมจะไม่ได้ผล เพราะลูกหนี้อาจเถียงได้ต่าง ๆ เช่นเถียงว่า ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษานอกศาลแล้ว เป็นต้น

จึงพิพากษายืน

Share