คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ คุ้มครองการเช่าเคหะที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ฉะนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยให้การต่อสุ้เพียงว่าห้องเช่าอยู่ในเขตเทศบาลจำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มิได้กล่าวในคำให้การเลยว่าห้องเช่าเป็นเคหะอันใช้เป็นที่อยู่อาศัย อันจะเป็นข้อแสดงว่าการเช่าอยู่นความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.เมื่อคำให้การของจำเลยไม่แสดงให้เห็นว่าการเช่าของจำเลยอยู่ในข่ายคุ้มครองตาม พ.ร.บ. แล้ว คดีไม่มีทางที่จำเลยจะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่า ฯลฯ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขายฝากที่ดินและห้องแถวของจำเลยให้แก่โจทก์ แล้วไม่ไถ่ถอนภายในกำหนดทรัพย์ที่ขายฝากจึงตกเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ จำเลยเช่าที่ดินและห้องแถวรายนี้จากโจทก์ แล้วค้างค่าเช่า ๖ เดือนโจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและห้องของโจทก์กับให้ชำระค่าเช่าที่ค้าง
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ขายฝาก และไม่ได้ค้างค่าเช่ากับว่าห้องเช่าอยู่ในเขตเทศบาลจำเลยย่อมได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยขายฝากที่ดินและห้องแถวพิพาทแก้โจทก์จริง แต่ค่าเช่าค้างเพียง ๒ เดือนโจทก์จำเลยตกลงส่งค่าเช่า ๓ เดือนต่อครั้ง จึงถือว่าผิดนัดไม่ชะระค่าเช่าไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้องทั้งสำนวน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยค้างชำระค่าเช่า ๒ คราวติด ๆ กัน จึงพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง ๑๕๐๐ บาท และต่อจากวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๒ ไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ และให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากสถานที่เช่านอกนั้นยืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาคงฟ้องข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ แต่เงินที่ค้างค่าเช่าเห็นว่าค้างเพียง ๑๐๐๐ บาท
ประเด็นข้อที่ว่าจำเลย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ หรือไม่นั้น เห็นว่า พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ คุ้มครองฉะเพาะการเช่าเคหะที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย แต่จำเลยมิได้กล่าวในคำให้การเลยว่าห้องเช่าเป็นเคหะอันใช้เป็นที่อยู่อาศัย อันจะเป็นข้อแสดงว่าการเช่าอยู่ในความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. เมื่อคำให้การของจำเลยไม่แสดงให้เห็นว่า การเช่าของจำเลยอยู่ในข่ายคุ้มครองตาม พ.ร.บ. แล้ว คดีกไม่มีทางที่จำเลยจะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
จึงพิพากษาแก่ฉะเพาะให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างก่อนฟ้องเป็นเงิน ๑๐๐๐ บาท นอกนั้นคงยืน

Share