แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สัญญาจ้างแรงงาน โจทก์ตกลงให้จำเลยที่ 1 เรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วโจทก์จะส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยโจทก์ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาญี่ปุ่นและค่าใช้จ่ายในการไปฝึกงานให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งตามสัญญากำหนดว่าเมื่อผ่านการฝึกงานแล้วจำเลยที่ 1 ต้องกลับมาเข้าทำงานที่โรงงานของโจทก์หรือที่อื่นตามแต่โจทก์จะกำหนด หากจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาหรือกลับจากฝึกงานแล้วไม่ประสงค์จะเข้าทำงานตามที่โจทก์กำหนดหรือเข้าทำงานกับโจทก์แต่ทำงานไม่ครบ 6 ปี หรือกระทำผิดต่อโจทก์อย่างร้ายแรงจนถูกเลิกจ้างหรือเพราะเหตุอื่นใดอันมิใช่ความผิดของโจทก์ จำเลยที่ 1ตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 900,000 บาท ถือได้ว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับ เมื่อสูงเกินไปศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเข้าทำงานเป็นลูกจ้างโจทก์มีข้อตกลงว่า โจทก์จะส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นมีกำหนด 24 เดือน โดยโจทก์เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาญี่ปุ่น และค่าใช้จ่ายในการส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงาน เมื่อสิ้นสุดการฝึกงานแล้ว จำเลยที่ 1 ต้องกลับมาทำงานให้โจทก์หรือที่อื่นซึ่งโจทก์กำหนดมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 ปี หากไม่ทำงานตามที่โจทก์กำหนดหรือทำงานไม่ครบ 6 ปี หรือกระทำผิดต่อโจทก์อย่างร้ายแรงจนถูกเลิกจ้างหรือเพราะเหตุอื่นใดอันมิใช่ความผิดของโจทก์ จำเลยที่ 1 จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 900,000 บาท จำเลยที่ 2ทำสัญญาค้ำประกันโจทก์ได้ส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วจำเลยที่ 1 กลับมาทำงานกับโจทก์ ต่อมาจำเลยที่ 1 ขาดงานไปเป็นการขาดงานสามวันติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของโจทก์อย่างร้ายแรงโจทก์จึงบอกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจ้างและสัญญาค้ำประกัน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 900,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์มิได้ส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงานแต่ส่งไปทำงานกับบริษัทโอกิฮาร่า ไอออน เวิร์ค จำกัด ที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่มีการฝึกสอนงานเกี่ยวกับเครื่องกล โจทก์มิได้จ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แก่จำเลยที่ 1 ในระหว่างที่อยู่ประเทศญี่ปุ่นตามสัญญา จำเลยที่ 1 กับลูกจ้างอื่นได้ร่วมกันยื่นข้อเรียกร้องต่อโจทก์ โจทก์ไม่ยอมเจรจาและได้หาเหตุบีบคั้นกลั่นแกล้งเลิกจ้างลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องซึ่งรวมทั้งจำเลยที่ 1 ด้วยมิใช่กรณีจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาจ้างโดยขาดงานเกินสามวัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร จำเลยที่ 1 ไม่ได้ผิดสัญญา จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาญี่ปุ่นของจำเลยที่ 1กับค่าใช้จ่ายในการส่งจำเลยที่ 1 ไปทำงาน รวมกันไม่เกิน 30,000บาท เบี้ยปรับที่กำหนดไว้จึงสูงเกินส่วน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 35,000บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ตามสัญญาจ้างงานเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 เป็นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยที่ 1 เรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ถึง 2 เดือนแล้วโจทก์จะส่งจำเลยที่ 1 ไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นมีกำหนด24 เดือน โดยโจทก์ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษาญี่ปุ่นและค่าใช้จ่ายในการไปฝึกงานให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งตามสัญญาข้อ 4.3กำหนดว่าเมื่อผ่านการฝึกงานแล้วจำเลยที่ 1 ต้องกลับเข้าทำงานที่โรงงานของโจทก์หรือที่อื่นตามแต่โจทก์จะกำหนด และตามสัญญาจ้างข้อ 5 หากจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด หรือเมื่อกลับจากฝึกงานแล้วไม่ประสงค์จะเข้าทำงานตามที่โจทก์กำหนด หรือเข้าทำงานกับโจทก์แต่ทำงานไม่ครบ 6 ปี หรือกระทำความผิดต่อโจทก์อย่างร้ายแรงจนถูกเลิกจ้างหรือเพราะเหตุอื่นใดอันมิใช่ความผิดของโจทก์ จำเลยที่ 1 ตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 900,000 บาท ถือได้ว่าข้อตกลงตามข้อ 5 ดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 เมื่อศาลแรงงานกลางเห็นว่าเบี้ยปรับที่กำหนดไว้นั้นสูงเกินไป ศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าค่าเสียหายซึ่งกำหนดไว้ตามสัญญาไม่ใช่เบี้ยปรับจึงฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน