คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4193/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โกดังเก็บสินค้าที่โจทก์เช่าจากจำเลยมีสภาพมั่นคงแข็งแรงการที่ฝนตกพายุแรงพัดกระเบื้องหลังคาเผยอออกหลุด 1 แผ่นจนกระทั่งน้ำฝนรั่วเข้าไปในโกดังเก็บสินค้าทำให้สินค้าเสียหายมิใช่เกิดจากความเสื่อมสภาพของกระเบื้องหลังคาและตะปูขอเกี่ยวหลุดตามสภาพ แต่เกิดจากภัยพิบัติที่ไม่อาจจะป้องกันได้แม้จะได้ระมัดระวังตามสมควรแล้วก็ตาม จึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นแก่สินค้าของโจทก์และโกดังเก็บสินค้าก็อยู่ในความควบคุมดูแลของโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เช่าโกดังเก็บสินค้า โดยจำเลยรับรองว่าสถานที่เช่าเหมาะสมแก่การเก็บรักษาสินค้าโดยปลอดภัย ปลอดจากความเสียหายใด ๆหากสินค้าและทรัพย์สินของโจทก์เสียหายเนื่องจากการชำรุดหรือใช้การไม่ได้ของสถานที่เช่า จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ หลังจากนั้นโจทก์นำน้ำตาลทรายไปเก็บไว้ในโกดัง ต่อมาฝนตกน้ำฝนรั่วเข้าไปในโกดังเนื่องจากหลังคาโกดังรั่ว น้ำตาลของโจทก์เปียกน้ำเสียหาย ถูกปลวกกัดกิน และโจทก์ต้องขนย้ายไปเช่าโกดังใหม่ เสียค่าขนย้ายค่าเสื่อมสภาพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 400,063.70 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า เกิดมรสุมฝนตกหนัก จำเลยใช้ความระมัดระวังแล้ว ความเสียหายเป็นเหตุสุดวิสัย จำเลยไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โกดังเก็บสินค้าที่โจทก์เช่าจากจำเลยมีสภาพมั่นคงเหมาะสมกับการเก็บสินค้าของโจทก์ คืนเกิดเหตุฝนตกพายุลมแรงทำให้กระเบื้องหลังคาโกดังเก็บสินค้าหลุด 1 แผ่น น้ำฝนสาดเข้าไปในโกดังเป็นเหตุให้น้ำตาลทรายของโจกท์เสียหาย และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า เมื่อโกดังเก็บสินค้าที่โจทก์เช่ามีสภาพมั่นคงแข็งแรงเหมาะสมกับการเก็บรักษาน้ำตาลทราย การที่ฝนตกพายุแรงพัดกระเบื้องหลังคาเผยออกหลุด 1 แผ่น จนกระทั่งน้ำฝนรั่วเข้าไปในโกดังเก็บสินค้ามิใช่เกิดจากความเสื่อมสภาพของกระเบื้องหลังคาและตะปูขอเกี่ยวหลุดตามสภาพแต่เกิดจากภัยพิบัติที่ไม่มีใครจะอาจป้องกันได้ แม้จะได้ระมัดระวังตามสมควรแล้วก็ตามจึงเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นแก่สินค้าของโจทก์และโกดังเก็บสินค้าอยู่ในความควบคุมดูแลของโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

Share