คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 419/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การวินิจฉัยข้อกฎหมายศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาฟ้องว่าต่างฝ่ายต่างวิวาททำร้ายกันจนเป็นเหตุให้คนตายศาลตัดสินยกฟ้องไปครั้งหนึ่งแล้วกลับมาฟ้องว่าฆ่าคนตายโดยเจาะจงอีกได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ข้อกฎหมายที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยนั้นคู่ความจะต้องได้ยกขึ้นโต้เถียงกันมาแต่ในชั้นศาลล่าง ศาลเดิมลงโทษ 7 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เปน 3 ปีในบทมาตราเดียวกันจะฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๒๕๑ ศาลเดิมให้จำคุก ๗ ปี แต่ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุก ๓ ปี
จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงแลข้อกฎหมายว่า ๑. คดีนี้เป็นกรณีเดียวกับคดีอาญาเลขดำที่ ๔๒/๒๔๗๑ ซึ่งอัยยการได้ฟ้องจำเลยแลศาลยกฟ้องไปแล้ว โจทก์ไม่ควรเก็บคดีมาฟ้องจำเลยอีก ๒. นายหรุ่มไม่มีสิทธิจะฟ้องคดีนี้ เพราะนายคงผู้ตายยังมีภรรยาซึ่งเป็นญาติสนิธกว่านายหรุ่มอยู่อีก
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยจะทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ เพราะศาลอุทธรณ์แก้ศาลเดิมเพียงเล็กน้อย โทษที่จำเลยรับก็เพียง ๓ ปี ส่วนการที่จะวินิจฉัยข้อกฎหมายนั้นศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมากรรมการเห็นว่า ในฎีกาข้อหนึ่งนั้นถึงอัยยการจะได้ฟ้องว่าจำเลยกับพวกในสำนวนหมายเลขแดงที่ ๖๒/๒๔๗๑ ต่างฝ่ายต่างวิวาททำร้ายกันเป็นเหตุให้นายคงถึงตาย แลศาลจังหวัดได้ตัดสินยกฟ้องโดยกล่าวว่าไม่ใช่คดีวิวาทก็ดี แต่ในเรื่องนี้นายหรุ่มฟ้องหาโดยตรงว่าจำเลยเป็นผู้ฆ่านายคงตาย ซึงเป็นคดีคนละฐาน ไม่ใช่เก็บเอาคดีที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้วมาฟ้องขึ้นใหม่ ฎีกาของจำเลยในข้อนี้จึงตกไป ส่วนในฎีกาข้อ ๒ นั้นจำเลยมิได้คัดค้านมาแต่ต้น จะมาคัดค้านในชั้นฎีกาไม่ได้ ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.๒๔๖๑ ม.๙ จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์

Share