คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้และมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต โดยกล่าวในฟ้องว่าประกาศของกระทรวงเกษตรได้คัดสำเนาปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ว่าการกำนันและที่สาธารณะแล้วนั้นเป็นฟ้องที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158 แล้ว ไม่จำต้องมีสำเนาประกาศแนบมาท้ายฟ้องด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้และค้าไม้แปรรูป จำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการ ใบอนุญาตหมดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2497 จำเลยที่ 1 ได้ขอต่ออายุและในระหว่างพิจารณาใบอนุญาตจำเลยได้รับอนุญาตให้ทำการแปรรูปไม้ชั่วคราวไม่เกิน 30 วัน วันที่ 23 มีนาคม 2498 จำเลยสมคบกันแปรรูปไม้หวงห้ามและมีไม้แปรรูปไว้ไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ

จำเลยต่อสู้และตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมโดยไม่แจ้งวันเดือนปีที่ปิดประกาศกำหนดเขต ควบคุมการแปรรูปไม้กับไม่ได้คัดสำเนาประกาศแนบท้ายฟ้อง

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าประกาศกระทรวงเกษตรไม่ใช่กฎหมาย โจทก์ต้องคัดสำเนามาท้ายฟ้อง มิฉะนั้นย่อมเคลือบคลุมพิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว เพราะเรื่อง พระราชกฤษฎีกาและประกาศของกระทรวงเกษตรโจทก์ได้กล่าวในฟ้องว่าได้คัดสำเนาประกาศปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอที่ว่าการกำนัน และที่สาธารณะแล้วจึงพิพากษายืน

Share