แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของที่ดินหลายคนสมยอมลงชื่อภรรยาผู้ใหญ่บ้านในหน้าโฉนดแต่ผู้เดียวโดยประสงค์จะให้เสียค่าธรรมเนียมน้อยและสดวก แต่ก่อนหรือหลังออกโฉนดตลอดมาแต่ละเจ้าของก็ได้ครอบครองเป็นสัดส่วนโดยสงบเปิดเผยติดต่อกันเกิน 10 ปีดังนี้เจ้าของนั้นมีกรรมสิทธิ์++แม้ภรรยาผู้ใหญ่บ้านจะมีชื่อในหน้าโฉนดแต่ผู้เดียวก็หาได้กรรมสิทธิทั้งหมดไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นบุตรหลานนางเกลี้ยง ๆ มีที่พิพาท ๑ ไร่เศษรวมอยู่ในหน้าโฉนดที่ ๗๖๓๕ เนื้อที่ ๔ ไร่เศษของนางกลมมารดาและยายจำเลยที่นี้นางเกลี้ยงได้รับมรดกปกครองมาเป็นสัดส่วนละตกทอดมายังโจทก์กว่า ๔๐ ปีแล้ว.เหตุนางกลมมีชื่อในโฉนดแต่ผู้เดียวเพราะเจ้าของที่รายอื่นในโฉนดนี้จะหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมและเพื่อสดวกและไว้ใจกันจึงให้นางกลมซึ่งเป็นเมียผู้ใหญ่บ้านซึ่งมีที่ดินติดต่อกันใส่ชื่อแต่ผู้เดียว บัดนี้จำเลยขอรับมรดกนางกลมเด็มทั้งโฉนด จึงขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ เฉพาะส่วนของโจทก์
จำเลยให้การว่าที่เป็นของนางกลมทั้งแปลง นางเกลี้ยงอาศัยนางกลมปลูกเรือนอยู่ จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่นี้.
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่ ๆ โจทก์ครอบครอง ๑ ไร่เศษเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่าก่อนหรือหลังออกโฉนดและตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมา จำเลยไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องในที่พิพาทเลย ทั้งนี้จะเห็นได้โดยที่ดินระหว่างโจทก์และจำเลยมีรั้วเป็นเขตแน่นอน เมื่อที่พิพาทถูกทางการตัดถนนไปบางส่วนโจทก์ได้ลงชื่อยินยอมไว้ให้เจ้าพนักงานตัดถนนจำเลยมิได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นางปุ่นเช่าที่พิพาทปลูกเรือนก็ขออนุญาตโจทก์ ไม่ได้ขออนุญาตจำเลย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโจทก์มานั้นชอบตามนัยฎีกาที่ ๘๒๗/๒๕๖๘
จึงพิพากษายืน.