คำสั่งคำร้องที่ 577/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า คดีนี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวันที่ 29 เมษายน2530 แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยได้รับหมายนัดและสำเนาฎีกาของโจทก์และไม่ได้ยื่นคำแก้ฎีกา จำเลยเพิ่งทราบว่าโจทก์ฎีกาเมื่อวันที่15 เมษายน 2530 เมื่อได้รับหมายนัดฟังคำพิพากษาจึงให้ทนายจำเลยตรวจสอบ ปรากฏว่าผู้ส่งรายงานต่อศาลว่า ส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้จำเลยไม่ได้และได้ส่งคืนศาลดังปรากฏตามรายงานของพนักงานส่งหมายในคดีนี้ซึ่งรายงานดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะจำเลยอาศัยอยู่ตามที่อยู่ซึ่งระบุในคำฟ้องและไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ไปส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้แก่จำเลย เพื่อนบ้านใกล้เคียงก็ไม่เคยแจ้งเรื่องแก่จำเลย การส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ โปรดมีคำสั่งนัดไต่สวน และอนุญาตให้จำเลยยื่นคำแก้ฎีกาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(3),(8) ฯลฯ จำคุก 1 ปี 6 เดือน ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์ ฯลฯ
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับฎีกาของโจทก์ สำเนาให้จำเลย(อันดับ 68)
ศาลชั้นต้นมีหนังสือแจ้งให้สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอำเภอวารินชำราบดำเนินการส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้แก่จำเลย(อันดับ 69)
สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรอำเภอวารินชำราบมีหนังสือรายงานการส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยว่า ได้จัดสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยแล้ว ทราบว่าจำเลยได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัดและเจ้าหน้าที่ได้สอบถามบ้านใกล้เคียงแล้ว แต่ไม่ทราบ ฯลฯ จึงไม่สามารถส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยได้ และส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาคืน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ถือว่าไม่อาจส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยได้ จึงให้ส่งสำนวนไปศาลฎีกา (อันดับ 70)
ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลฎีกา
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จ และส่งไปยังศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟังแล้ว (อันดับ 73)
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาวันที่ 29 เมษายน 2530(อันดับ 75)
ก่อนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าวศาลชั้นต้นสั่งว่า รวมสำนวนส่งศาลฎีกาพร้อมซองคำพิพากษา เพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 79)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำการไต่สวนให้ยกคำร้อง

Share