คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยที่ 1 ถือปืนกลับบ้านพร้อมจำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และการพาอาวุธปืนนั้นไปเป็นการป้องกันไม่ให้จำเลยที่ 2 นำไปใช้กระทำผิดและนำกลับบ้านเท่านั้น มิได้มีเจตนาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ จำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ มีอาวุธปืนลูกซองยาวมีหมายเลขทะเบียนซึ่งเป็นของจำเลยที่ ๒ และมีเครื่องกระสุนปืนลูกซองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปตามถนนสาธารณะในหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยทั้งสอง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐,๘๓,๓๗๑,๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗,๘ ทวิ,๗๒,๗๒ ทวิ ริบอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืนของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๘ ทวิ วรรคแรก, ๗๒ ทวิ ให้จำคุกและปรับ โทษจำคุกให้รอการลงโทษ ข้อหาอื่นให้ยก และให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๑ อาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางไม่ริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๘ ทวิ วรรคแรก,๗๒ ทวิ ให้จำคุกและปรับโทษจำคุกให้รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ ๑ ถือปืนกลับบ้านพร้อมจำเลยที่ ๒ ผู้เป็นเจ้าของที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง เป็นการป้องกันไม่ให้จำเลยที่ ๒ นำไปใช้กระทำความผิดและนำกลับบ้านเท่านั้น มิได้มีเจตนาพาอาวุธปืนนั้นติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ จำเลยที่ ๑ จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๘ ทวิ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share