แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เดิมจำเลยเช่าห้องพิพาทไว้เดือนละ 60 บาท แต่มาห้องพิพาทโอนกรรมสิทธิไปยังบุคคลภายนอก จำเลยยินยอมเช่าจากบุคคลภายนอกเดือนละ 200 บาท ที่จำเลยยอมเสียให้ จำเลยไม่ยอมชำระให้เป็นเวลากว่าปีเศษดังนี้จำเลยได้ชื่อว่าผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าติดต่อกันเกินกว่า 2 เดือนโจทก์มีอำนาจให้จำเลยออกจากห้องพิพาทได้เพราะสัญญายอมเสียค่าเช่า 200 บาท – เดิมนั้น,เป็นสัญญาที่สมบูรณ์ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ 2489 ม.10,11,13 และ ป.พ.พ. ม.113.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์รับซื้อบ้านเลขที่ ๒๔๕ ต.ดุสิต จาก ร.อ.คง จำเลยเช่าเดือนละ ๒๐๐ บาท โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยทราบและขอเก็บค่าเช่าจำเลยไม่ยอมชำระ จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเช่า ๒๔๐๐ บาท และค่าเสียหายต่อไปเดือนละ ๒๐๐ บาท และให้จำเลยและบริวารออกจากบ้าน
จำเลยต่อสู้ว่าการซื้อขายบ้านรายนี้เป็นการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กัน สัญญาเช่าที่โจทก์อ้างเป็นโมฆะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี เพราะขึ้นค่าเช่าโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ๒๔๘๙ ที่จำเลยยังไม่ชำระค่าเช่าเพราะยังร้องคัดค้านอยู่จำเลยเคยเสียค่าเช่าเดือนละ ๖๐ บาทเท่านั้น
วันชี้สองสถาโจทก์จำเลยรับกันว่าเดิมจำเลยเช่าบ้านจากห้างพระจันทร์โอสถ ๔๐ บาท ต่อมาจำเลยทำสัญญาเช่าจาก ร.อ.คงเจ้าของเดิมจริงแต่ค่าเช่าเดือนละ ๒๐๐ บาท เมื่อโจทก์รับซื้อบ้านนี้จาก ร.อ.คงแล้ว จำเลยไม่ชำระเพราะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ โจทก์ จำเลยไม่สืบพยาน
ศาลแพ่งพิพากษาว่าจำเลยผิดนัดให้ขับไล่จำเลยและบริวาร ให้ใช้ค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ว่าสัญญาเช่าเป็นโมฆะ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยอ้างว่สัญญาเช่าเป็นโมฆะอ้างเหตุว่าขึ้นค่าเช่าโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯแต่ความจริงจำเลยก็รับว่า เมื่อทำสัญญาเช่าบ้านนี้ จาก ร.อ.คงเจ้าของเดิมจำเลยยอมให้ขึ้นค่าเช่าจาก ๖๐ บาท เป็นเดือนละ ๒๐๐ บาท และจำเลยไม่ชำระให้แก่ ร.อ.คงตลอดมา การที่จำเลยยินยอมให้ขึ้นค่าเช่าโดยใจสมัครและได้ปฏิบัติต่อมาปีกว่านั้น เห็นว่าสัญญาเช่นนั้นหาเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าไม่ เป็นสัญญาที่ใช้ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเช่าจำเลยจึงผิดนัด พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย.