แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา138วรรคสองและมาตรา140วรรคสามนั้นการปรับบทลงโทษเพียงตามมาตรา140วรรคสามนั้นยังไม่ชัดเจนเพราะไม่แน่ชัดว่าจำเลยผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่งของมาตรา140วรรคแรกหรือวรรคสองเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีและใช้อาวุธปืนการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา138วรรคสอง,140วรรคแรกและวรรคสามปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยปรับบทลงโทษให้ถูกต้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80,83, 91, 138, 140, 288, 289, 335, 336 ทวิ, 340, 340 ตรีและนับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1390-1393/2534ของศาลชั้นต้นให้จำเลยคืนทรัพย์หรือใช้ราคาทรัพย์ 8,755 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 52(1), 80, 83, 138 วรรคสอง, 140 วรรคสาม, 289(2) ข้อหาฆ่าเจ้าพนักงาน ลงโทษประหารชีวิต ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ลงโทษในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกตลอดชีวิต เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้ประหารชีวิตสถานเดียวข้อหาและคำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง และมาตรา 140วรรคสามนั้น เห็นว่า การปรับบทลงโทษเพียงตามมาตรา 140 วรรคสามนั้น ยังไม่ชัดเจน เพราะไม่แน่ชัดว่าจำเลยผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่งของมาตรา 140 วรรคแรก หรือวรรคสอง เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีและใช้อาวุธปืน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามมาตรา 138 วรรคสอง, 140 วรรคแรก และวรรคสาม ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ข้อหาความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธปืน จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 140 วรรคแรก และวรรคสาม นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3