คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมแก่เขาแล้ว บิดามารดาโดยกำเนิดก็หมดอำนาจปกครองนับแต่วันเวลาที่เด็กเป็นบุตรบูญธรรมแล้ว และแม้ภายหลังผู้รับบุตรบูญธรรมจะวายชนม์ เด็นนั้นก็ยังคงเป็นบุตรบูญธรรมของผู้วายชนม์นั้นอยู่ ฉะนั้นบิดามารดาเดิมของเด็กนั้น หรือภริยาของผู้รับบุตรบูญธรรมย่อมไม่มีอำนาจปกครองเด็กนั้นตามกฎหมายจึงไม่มีอำนาจทำนิติกรรมแทนเด็กได้ ถ้าขืนทำไป นิติกรรมนั้นๆไม่ผูกพันเด็กให้ต้องรัยผิด
มารดาเดิมของเด็กซึ่งเป็นบุตรบูญธรรมคนอื่นอยู่ได้ตั้งตัวเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็ก ฟ้องเรียกมรดกของผู้รับบุตรบูญธรรม แล้วได้ประนีประนอมยอมความกันต่อศาลให้แบ่งทรัพย์กัน โดยวิธีขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกัน ศาลก็พิพากษาให้เป็นไปตามยอม ต่อมาได้มีการขอตั้งผู้ปกครองเด็กนั้น ซึ่งศาลได้ตั้งผู้อื่นเป็นผู้ปกครองเด็กผู้ปกครองจึงร้องขอต่อศาลในคดีเดิมให้ดำนเนินการขายทอดตลาดทรัพย์มรดกเอาเงินมาแบ่งกันตามคำพิพากษาท้าย ดังนี้ การกระทำของผู้ปกครอง
ดังกล่าวย่อมเป็นการรับรองกิจการที่มารดาเดิมของเด็กได้กระทำไปในเรื่องนั้นการกระทำของผู้ปกครองจึงย่อมผูกพันเด็กเหมือนเด็กได้ – ทำด้วยตนเอง ฉะนั้นเด็กจึงไม่มีสิทธิจะขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาท้ายยอมดังกล่าวแล้วได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์เป็นบุตรบูญธรรมของนายต่วนผู้ตาย จำเลยที่ ๑ เป็นน้องนายต่วน จำเลยที่ ๒ เป็นภรรยานายต่วน ชั้นเดิมโจทก์จำเลยเป็นความกันเรื่องมรดกของนายต่วนผู้ตาย โดยนางโฮมมารดาเดิมของโจทก์ตั้งตัวเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ ดำเนินคดีแทนโจทก์ ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ คดีนั้นได้ประณีประนอมยอมความกันต่อศาล ให้แบ่งทรัพย์ให้แก่โจทก์จำเลยตามฟ้องโดยวิธีขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกัน แต่ให้รอการขายไว้ฟังคำพิพากษาฎีกาในเรื่องที่นางโฮมฟ้องเรียกโจทก์คืนจากนางอิ่ม ครั้นศาลฎีกาพิพากษาว่าโจทก์ยังเป็นบุตรบูญธรรมของนายต่วนอยู่ นางโฮมไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเด็กคืน จึงมีการของตั้งผู้ปกครองโจทก์ขึ้น ศาลได้ตั้งนายต่วนเป็นผู้ปกครอง ต่อจากนั้นนายย่วนกับจำเลยที่ ๑ – ๒ ได้ร่วมกันขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดทรัพย์เอาเงินมาแบ่งกันตามยอม แต่ยังไม่ทันได้ขายทรัพย์ โจทก์ก็มาฟ้องคดีนี้ ขอให้เพิกถอนท้ายยอมในคดีก่อนนั้น ตลอดจนสัญญาฉบับลงวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๙๐ ที่นางอิ่มและนางทับทิมทำไว้กับนายเลี่ยนบอกศาล ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะ โดยให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมและคำพิพากษาท้ายยอม ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นายเลี่ยน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เด็กชายบุญธรรมโจทก์เป็นบุตรบูญธรรมของนายต่วน แม้นายต่วนวายชนม์ เด็กชายบุตรบูญธรรมก็ยังคงเป็นบุตรบูญธรรมของนายต่วนอยู่ นางโอมมารดาเด็กชายบุญธรรมย่อมหมดอำนาจการปกครองตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๕๘๖ การที่นางอิ่มตกลงกับนายต่วนเมื่อหย่ากันว่า นายต่วนยอมให้นางอิ่มเป็นผู้ปกครองเด็ยชายบุญธรรมนูน ไม่ทำให้เด็กชายบุญธรรมเป็นบุตรบูญธรรมของนางอิ่ม ฉะนั้นนางโฮมและนางอิ่มจึงไม่มีอำนาจที่จะทำนิติกรรมแทนเด็กชายบุญธรรม กิตการใดๆที่นางโฮมนางอิ่มได้กระทำไปโดยไม่มีอำนาจนั้น หาเป็นการผูกพันเด็กชายบุญธรรมให้ต้องรับผิดด้วยไม่ ต่อมานายผ่อน ซึ่งเป็นผู้ปกครองเด็กชายบุญธรรมโดยชอบได้ยื่นคำร้องในคดีที่นางโฮมฟ้องและทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนเด็กชายบุญธรรม โดยขอให้ศาลขายทอดตลาดทรัพย์เอาเงินแบ่งกันตามยอม อันเป็นการรับรองกิจการที่นางโฮมได้กระทำไปในเรื่องนั้น การกระทำของนายย่วนย่อมผูกพันเด็กชายบุญธรรมเหมือนหนึ่ง เด็กชายบุญธรรมได้ทำด้วยตนเอง ฉะนั้นเด็กชายบุญธรรมจึงไม่มีสิทธิที่จะขอให้เพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวนั้นได้
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

Share