แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำร้องขอใช้สิทธิอุทธรณ์แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ยื่นมาพร้อมอุทธรณ์ แม้แยกต่างหากจากอุทธรณ์ก็ถือเป็นเพียงคำร้องแสดงเหตุประกอบการยื่นอุทธรณ์เท่านั้น เมื่อศาลชั้นต้นสั่งในคำร้องว่ารวมสั่งในอุทธรณ์ และมีคำสั่งในอุทธรณ์ว่าไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 230 วรรคสี่ และมาตรา 232ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153เมื่อผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าว และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ดังนี้ เป็นคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด และพิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ในการรวบรวมทรัพย์สินของจำเลย ผู้คัดค้านได้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 13725 ตำบลหัวหมากใต้ อำเภอบางกะปิกรุงเทพมหานคร โดยอ้างว่าเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลยเพื่อรวมเข้ากองทรัพย์สินของผู้ล้มละลาย ผู้ร้องยื่นคำคัดค้านต่อผู้คัดค้านว่า ที่ดินดังกล่าวไม่ใช่สินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลยแต่เป็นสินส่วนตัวของผู้ร้องฝ่ายเดียว ผู้คัดค้านสอบสวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำคัดค้านของผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านปล่อยการยึดที่ดินดังกล่าวและคืนให้ผู้ร้อง ผู้คัดค้านไม่อุทธรณ์ แต่ก่อนครบกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้คัดค้านยื่นอุทธรณ์ได้ตามระยะเวลาที่ขยายไป ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิอุทธรณ์แทนผู้คัดค้านพร้อมกับคำฟ้องอุทธรณ์โดยอ้างว่าผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ได้ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ให้ล้มละลาย และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์โจทก์ในคดีนี้เด็ดขาดแล้วตามคดีหมายเลขแดงที่ล.298/2530 ของศาลชั้นต้น ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์จึงเป็นบุคคลที่ได้รับความเสียหายในการที่ผู้คัดค้านไม่อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์เป็นบุคคลภายนอกและไม่มีส่วนได้เสียในคดีนี้ ผู้คัดค้านไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาเกี่ยวกับผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้แม้ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์จะยื่นคำร้องขออนุญาตใช้สิทธิอุทธรณ์แทนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แยกต่างจากอุทธรณ์โดยยื่นต่อศาลชั้นต้นพร้อมกับอุทธรณ์ คำร้องดังกล่าวก็ถือเป็นคำร้องที่แสดงเหตุประกอบในการยื่นอุทธรณ์เท่านั้นเมื่อศาลชั้นต้นตรวจคำร้องและอุทธรณ์ของผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งในคำร้องว่ารวมสั่งในอุทธรณ์และมีคำสั่งในอุทธรณ์ว่าไม่รับอุทธรณ์ จึงเป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 230 วรรคสี่ และมาตรา 232 ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153เมื่อผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง ดังนี้ เป็นคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์คำสั่งของศาลอุทธรณ์นี้ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ประกอบพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 153
ให้ยกฎีกาของผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ คืนค่าธรรมเนียมชั้นฎีกาทั้งหมดแก่ผู้ขอใช้สิทธิอุทธรณ์ ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ