คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 937/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานเบิกความยืนยันว่าจำเลยที่ 2เป็นคนร้ายร่วมกันฆ่าผู้ตายก็ตาม แต่โจทก์ก็มีคำให้การของจำเลยที่ 1 ในชั้นสอบสวนที่ให้การซัดทอดว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับพวกอีก 2 คน ใช้อาวุธปืนยิงและใช้ไม้ตีผู้ตายถึงแก่ความตาย ซึ่งคำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าว จำเลยที่ 1 ได้ให้การต่อพนักงานสอบสวนทันทีในวันที่จำเลยที่ 1 ถูกจับ เป็นการยากที่จำเลยที่ 1จะปรุงแต่งขึ้นไว้เพื่อต่อสู้คดีหรือปรักปรำจำเลยที่ 2 ทั้งเป็นคำให้การที่มิได้เกิดจากการจูงใจ มีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญหลอกลวงหรือโดยมิชอบประการอื่น และคำให้การชั้นสอบสวนของผู้กระทำผิดด้วยกันก็ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายห้ามมิให้ศาลรับฟังแต่อย่างไร ดังนั้น คำให้การของจำเลยที่ 1 ในชั้นสอบสวนศาลย่อมนำมาฟังประกอบการพิจารณาได้ คดีนี้ปรากฏว่าในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ทั้งยังได้นำชี้สถานที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและมีการถ่ายรูปไว้ด้วย โดยคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 2 มีรายละเอียดมากมาย ซึ่งยากที่พนักงานสอบสวนจะปรุงแต่งขึ้นเอง นอกจากนี้ในการนำชี้สถานที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพของจำเลยที่ 2 ก็ได้กระทำในที่สาธารณะมีประชาชนหลายคนมามุงดูด้วย พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักมั่นคงฟังลงโทษจำเลยที่ 2 ได้

Share