คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4150/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมถูกตบด้วยแก้วที่ใบหน้าบริเวณเบ้าตาข้างซ้ายแพทย์ผู้ตรวจรักษาเบิกความประกอบรายงานความเห็นการตรวจชันสูตรบาดแผลว่าโจทก์ร่วมมีเลือดออกในลูกตาซ้ายฉากรับภาพเคลื่อน เป็นเหตุให้ตาข้างซ้ายมองไม่เห็นใช้เวลารักษาประมาณ 2 เดือน หลังจากรักษาแล้วก็ยังมองไม่เห็นตาข้างซ้ายจะบอดตลอดกาล ไม่สามารถผ่าตัดตาข้างซ้ายให้กลับดีได้ จะเอาลูกตาคนอื่นเปลี่ยนแทนก็ไม่ได้เพราะเบ้าตาภายในเสีย แม้โจทก์ร่วมจะได้รักษาหลังจากเกิดเหตุทันทีก็ไม่อาจแก้ให้ดีได้ และได้ความจากโจทก์ร่วมว่า ก่อนเกิดเหตุตาทั้งสองข้างมองเห็นได้ชัดเท่ากัน ขณะเบิกความเห็นราง ๆ ตาข้างซ้ายของโจทก์ร่วมไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเท่าตาข้างขวา ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 33และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น นายวรพจน์ เพิ่มศิริวาณิชย์ ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 จำคุก 9 เดือน ของกลางริบ

โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 จำคุก 4 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ร่วมและจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ร่วมถูกจำเลยตบด้วยแก้วที่ใบหน้าบริเวณเบ้าตาข้างซ้ายแพทย์ผู้ตรวจรักษาเบิกความประกอบรายงานความเห็นการตรวจชันสูตรบาดแผลว่า โจทก์ร่วมมีเลือดออกในลูกตาซ้าย ฉากรับภาพเคลื่อนเป็นเหตุให้ตาข้างซ้ายมองไม่เห็นใช้เวลารักษาประมาณ 2 เดือน หลังจากรักษาแล้วก็ยังมองไม่เห็น ตาข้างซ้ายจะบอดตลอดเวลา ไม่สามารถผ่าตัดตาข้างซ้ายให้กลับดีได้ จะเอาลูกตาคนอื่นเปลี่ยนแทนก็ไม่ได้เพราะเบ้าตาภายในเสียแม้โจทก์ร่วมจะได้รักษาหลังจากเกิดเหตุทันทีก็ไม่อาจแก้ให้ดีได้ และได้ความจากโจทก์ร่วมว่า ก่อนเกิดเหตุตาทั้งสองข้างมองเห็นได้ขัดเท่ากัน ขณะเบิกความเห็นราง ๆ ตาข้างซ้ายของโจทก์ร่วมไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเท่าตาข้างขวา ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์ร่วมรับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297

พิพากษายืน

Share