แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายซึ่งศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว พร้อมกับดำเนินคดีล้มละลายกับจำเลยเป็นอีกคดีหนึ่ง ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้อม เพราะการขอรับชำระหนี้เป็นคนละเรื่องกับการดำเนินคดีล้มละลาย.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามให้ล้มละลายศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 ไว้เด็ดขาด ผู้ร้องได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้และยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งยกคำขอรับชำระหนี้และคำร้องขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ของผู้ร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ชอบขอให้มีคำสั่งขยายกำหนดเวลายื่นคำร้องขอรับชำระหนี้และรับคำร้องขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เกินกำหนด 2 เดือน และคำร้องขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ก็มิได้ยื่นภายในเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…คดีล้มละลายนั้นได้กำหนดวิธีปฏิบัติของเจ้าหนี้เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดไว้เป็นพิเศษเช่นกำหนดให้เจ้าหนี้ทั่วไป รวมทั้งเจ้าหนี้ที่ได้ฟ้องลูกหนี้เป็นคดีแพ่งไว้ ต้องมายื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่านั้นและต้องยื่นภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจะยกเว้นเฉพาะเจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรที่มีสิทธิจะมาขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ออกไปอีกได้ แต่ก็ขอขยายกำหนดเวลาได้ไม่เกินสองเดือนเท่านั้น คดีนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่า ได้มีการประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2532 ซึ่งถือว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลภายนอกรวมทั้งผู้ร้องในคดีนี้ทราบว่าจำเลยที่ 1 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์2532 แล้ว แม้ผู้ร้องจะฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีล้มละลายอีกคดีหนึ่งก่อนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2532 จนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลยที่ 1 อีกก็ตาม ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นที่ผู้ร้องจะไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดสองเดือนนับแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2532 ทั้งไม่อาจถือเป็นพฤติการณ์พิเศษหรือเหตุสุดวิสัยโดยอาศัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ได้ และหากผู้ร้องจะยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีนี้ในระหว่างที่ผู้ร้องดำเนินคดีล้มละลายกับจำเลยที่ 1 อีกคดีหนึ่งอยู่ ก็ไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้อน ดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้างในฎีกาเพราะการขอรับชำระหนี้เป็นคนละเรื่องกับการดำเนินคดีล้มละลาย การที่ผู้ร้องเพิ่งมายื่นคำขอรับชำระหนี้และขอขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2532ซึ่งพ้นกำหนดสองเดือนนับแต่วันประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว จึงไม่ชอบด้วยบทกฎหมาย..”
พิพากษายืน.