แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ซื้อที่ดินมีโฉนดจากการขายทอดตลาดของศาล ได้ทำสัญญาซื้อขายจดทะเบียนการโอนลงชื่อผู้ซื้อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิโดยสุจริตแล้ว แม้จะได้ความว่ามีคนอื่นได้กรรมสิทธิในที่แปลงนั้นโดยการครอบครองอยู่ก่อน ผู้นั้นก็จะยกขึ้นต่อสู้ผู้ซื้อไม่ได้เพราะสิทธิของตนยันไม่ได้จดทะเบียนไว้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินนาพิพาทโฉนดที่ ๓๔๘๒ โจทก์ซื้อไว้จากการขายทอดตลาดของศาล ได้โอนการซื้อขายกันทางทะเบียนแล้ว จำเลยบุกรุกเข้าไปไถนาเนื้อที่ ๑๗ ไร่ จึงขอให้ห้ามและขับไล่จำเลย
จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิอ้างว่า ปกครองเป็นเจ้าของมากว่า ๑๐ ปีแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลย และห้ามจำเลยเกี่ยวข้องในที่พิพาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะได้กรรมสิทธิในที่พิพาทมาในทางครอบครองดังที่กล่าวอ้างก็ดี แต่การได้มาของจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสิทธิแต่อย่างใด สิทธิอันยังมิได้จดทะเบียนเช่นนี้ ย่อมยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิแล้วไม่ได้ ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๑๒๙๙ ทั้งการที่โจทก์รับโอนที่พิพาทมาจนถึงวันฟ้องก็ยังหาถึง ๑๐ ปีไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน