แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลตัดสินให้โจทก์ชนะคดีโดยให้จำเลยแบ่งมรดก ที่สวนที่นาและสวนมะพร้าวตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่งหรือใช้เงินให้โจทก์ 15000 บาท ถ้าไม่แบ่งหรือแบ่งแยกไม่ได้ หรือไม่ใช้เงินภายใน 1 เดือน ก็ให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง เมื่อปรากฎว่าที่สวนมะพร้าว แพงขึ้นจำเลยจึงเลือกเอาทางนำเงิน 15000 บาทมาวางศาลเพื่อชำรแก่โจทก์ ดังนี้ ถ้าโจทก์ไม่ตกลงด้วย ศาลก็ต้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่มรดกให้โจทก์
ย่อยาว
ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว และออกคำสั่งบังคับตามคำพิพากษาว่า ให้จำเลยแบ่งมรดกที่สวน ที่นาที่สวนมะพร้าว ตามบัญชีท้ายฟ้องให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง หรือใช้เงินให้โจทก์ ๑๕๐๐๐ บาท ถ้าไม่แบ่งหรือไม่ใช้ ก็ให้ขายทอดตลาด เอาเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง
จำเลยนำเงิน ๑๕๐๐๐ บาท มาวางศาลเพื่อปฏิบัติตามคำบังคับ ฝ่ายโจทก์คัดค้านว่าศาลไม่ควรรับ
ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยเลือกเอาทางชำระเงินได้ ให้ยกคำร้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยจะเลือกชำระไม่ได้ ให้แบ่งที่มรดกให้โจทก์
จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว ประสงค์จะให้โจทก์จำเลยได้มรดกคนละครึ่งเท่า ๆ กัน มิได้ประสงค์จะให้ฝ่ายใดได้เปรียบเกินกว่ากัน ปรากฎว่าที่สวนมะพร้าวราคามากขึ้น และโจทก์ประสงค์จะได้รับการแบ่งที่ดิน จึงตกลงกันไม่ได้ ดังนี้ จะให้จำเลยเลือกชำระเงิน ๑๕๐๐๐ บาท ตามความสมัครใจของตนฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะตามคำพิพากษามิได้บอกว่าจำเลยมีสิทธิจะเลือกตามชอบใจ ได้ ในเรื่องนี่จำเลยพยายามจะเอาเปรียบแก่โจทก์ จึงไม่เป็นการชอบ ศาลอุทธรณ์พิพากษาไว้ชอบแล้ว จึงพิพากษายืน