คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 413/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักหัวกล้องสูบฝิ่นหรือรับของโจร จำเลยรับสารภาพว่าได้รับของโจรจริง แต่ปรากฏว่าหัวกล้องสูบฝิ่นที่ถูกผู้ร้ายลักไปไม่ใช่หัวกล้องอันที่ระบุมาในฟ้องดังนี้ ต้องยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนตุลาคม ๒๔๘๗ มีโจรลักเอาหัวกล้องสูบฝิ่นไป นายเกียรติผู้เสียหายจับหัวกล้องสูบฝิ่นที่ถูกโจรลักได้จากนายสนิทจำเลยที่ ๒ โดยนายกลิ้งจำเลยที่ ๑ ได้มอบให้นายสนิทจำเลยที่ ๒ ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
จำเลยที่ ๑ รับสารภาพว่าได้รับของโจรจริง จำเลยที่ ๒ ปฎิเสธ
ทางพิจารณาได้ความว่า นายกลิ้งจำเลยที่ ๑ เอาหัวกล้องสูบฝิ่นอันที่หายมาเปลี่ยนเอาหัวกล้องอันที่ใช้สูบฝิ่นอยู่แล้ว แล้วเอาอันหลังนั้นมอบให้นายสนิทจำเลยที่ ๒ ไปแคะมูลฝิ่น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานรับของโจร จำเลยที่ ๒ ปล่อย
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวอุทธรณ์ว่า แม้จำเลยจะได้ให้การรับสารภาพก็ดี แต่ข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายเกียรติจับหัวกล้องสูบฝิ่นที่ถูกโจรลักไป ได้จากนายสนิทจำเลยที่ ๒ โดยนายกลิ้งจำเลยที่ ๑ เป็นผู้มอบให้แก่นายสนิทจำเลยที่ ๒ แต่ทางพิจารณากลับได้ความว่า หัวกล้องสูบฝิ่นที่นายกลิ้งจำเลยที่ ๑ มอบให้แก่นายสนิทจำเลยที่ ๒ นั้น เป็นหัวกล้องอีกอันหนึ่งต่างหากหาใช่อันที่ถูกคนร้ายลักไปไม่ ข้อเท็จจริงที่ได้ความจึงต่างกับฟ้องแม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้ พิพากษาแก้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า ข้อเท็จจริงที่ได้ความต่างกับฟ้องก็จริง แต่ข้อเท็จจริงนั้นเป็นแต่ข้อปลีกย่อย ไม่ใช่ข้อสาระสำคัญในคดี
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องบ่งถึงการกระทำต่อทรัพย์คือหัวกล้องอันที่ถูกโจรลักไปเมื่อเดือนตุลาคม ๒๔๘๗ แต่ทางพิจารณากลับปรากฎว่า ไม่ใช่หัวกล้องอันที่ถูกโจรลักไปเมื่อเดือนตุลาคม ๒๔๘๗ ฉะนั้นทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดที่ขอให้ลงโทษจำเลย จึงไม่ตรงตามที่อ้างในฟ้อง ข้อเท็จจริงไม่ได้ความดั่งฟ้องอันเป็นสาระสำคัญแห่งคดี ต้องยกฟ้อง โดยพิพากษายืน

Share