คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4102/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีอาญาโจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย เมื่อนำสืบมารับฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับจำนำอาวุธปืนของผู้เสียหายไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมา คดีก็รับฟังลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันลักเอาปืนสั้น 1 กระบอกของผู้เสียหายไป หรือมิฉะนั้นได้ร่วมกันรับเอาทรัพย์ดังกล่าวของผู้เสียหายไว้ โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 357พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2525 มาตรา 11
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าระหว่างวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง นายเจิด เป้าทรง และนายบน ทองไทยจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 51/2534 ของศาลชั้นต้นได้ร่วมกันลักเอาอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ราคา 3,800 บาท ของผู้เสียหายไปแล้วนำไปจำนำไว้กับจำเลยในราคา 2,000 บาท ต่อมาจำเลยได้นำไปฝากไว้ที่บ้านนายบน และผู้เสียหายไปตามรับคืนมาได้โดยจ่ายเงินให้จำเลยไป 2,000 บาท ปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรนั้นเห็นว่า คดีปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยว่า จำเลยรับจำนำอาวุธปืนไว้เพราะนายเจิดและนายบนยืนยันว่า เป็นอาวุธปืนมีทะเบียนของนายเจิด ต่อมาเมื่อผู้เสียหายกับนายเจิดไปหาจำเลยที่บ้านเพื่อขออาวุธปืนคืนนั้น จำเลยก็บอกว่านำไปฝากไว้ที่บ้านนายบนเพื่อคืนให้ผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายก็จ่ายเงินที่จำเลยรับจำนำไว้ 2,000 บาท ให้จำเลยแล้วไปเอาคืนจากนางสาวสมคิด ทองไทยซึ่งเป็นบุตรนายบนและอยู่ที่บ้านนายบน ส่วนนางสาวสมคิดพยานโจทก์เบิกความฟังได้ตรงกัน ทั้งยืนยันว่าจำเลยนำอาวุธปืนมาฝากไว้ให้ผู้เสียหายเมื่อจำเลยทราบจากชาวบ้านว่าอาวุธปืนของผู้เสียหายถูกลักไปอันฟังได้เจือสมกันกับคำเบิกความของจำเลย การที่จำเลยนำไปฝากไว้ที่บ้านนายบนและขอเงินคืนจากนายบนไม่ใช่เรื่องผิดปกติเพราะนายเจิดกับนายบนเป็นผู้นำอาวุธปืนมาจำนำไว้กับจำเลยชั้นจับกุมและสอบสวนตามคำเบิกความของร้อยตำรวจโทไพโรจน์ พิลาพนักงานสอบสวนพยานโจทก์ จำเลยก็ปฏิเสธมาตลอด พฤติการณ์แห่งคดีที่โจทก์นำสืบมายังไม่พอฟังว่าจำเลยรับจำนำอาวุธปืนของผู้เสียหายไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาซึ่งคดีอาญานั้นโจทก์มีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลย เมื่อนำสืบมารับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด คดีก็ไม่อาจลงโทษจำเลยที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีความผิดฐานรับของโจรและพิพากษายกฟ้องชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share