คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4098/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์นำยึดที่ดิน1แปลงของจำเลยที่1และบ้าน1หลังของจำเลยที่2ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขัดทรัพย์รวมมาในคำร้องฉบับเดียวกันโดยผู้ร้องที่1ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ดินอ้างว่าเป็นเจ้าของส่วนผู้ร้องที่2ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์บ้านอ้างว่าเป็นเจ้าของดังนี้ผู้ร้องทั้งสองมิได้มีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดีที่ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์การที่เหตุแห่งคดีเกิดขึ้นในวันเดียวกันหรือเป็นการสะดวกที่จะดำเนินคดีไปพร้อมกันก็หาใช่ข้อที่จะแสดงว่าผู้ร้องทั้งสองมีผลประโยชน์ร่วมกันแต่อย่างใดไม่ผู้ร้องทั้งสองย่อมไม่อาจเป็นคู่ความในคดีเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา59

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้ชำระหนี้ตามสัญญารับสภาพหนี้และร่วมรับผิดชดใช้หนี้สินต่อโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้โจทก์ขอหมายบังคับคดียึดทรัพย์ที่ดินเนื้อที่ 1 ไร่ 80 ตารางวา อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 1 และบ้านไม่มีเลขที่อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2
ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องว่า ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดดังกล่าวเป็นของผู้ร้องทั้งสองโดยที่ดินดังกล่าวที่โจทก์อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 1 นั้น ความจริงเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 297ตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องที่ 1 และบ้านดังกล่าวที่โจทก์อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2นั้นเป็นบ้านของผู้ร้องที่ 2 ปลูกขึ้นมาโดยอาศัยที่ดินของจำเลยที่ 2ขอให้ถอนการยึดทรัพย์ที่ดินและบ้านดังกล่าว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องเข้ามาโดยไม่ปรากฎว่าผู้ร้องทั้งสองมีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดีไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 ไม่รับคำร้อง
ผู้ร้องทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่ผู้ร้องทั้งสองฎีกาว่า ผู้ร้องทั้งสองร้องขัดทรัพย์คนละประเภท เนื้อหาแยกจากกันชัดแจ้ง แต่ที่ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องมาฉบับเดียวกันก็เพื่อความสะดวกในการดำเนินคดีรวมทั้งการส่งหมายของผู้ร้องทั้งสอง การยื่นคำให้การของโจทก์และการสืบพยาน เพราะเป็นคดีเดียวกันและเหตุที่เกิดวันเดียวกันคำร้องของผู้ร้องทั้งสองจึงไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 เห็นว่า เมื่อผู้ร้องทั้งสองยอมรับว่าได้ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์มาคนละประเภทโดยผู้ร้องที่ 1 ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์เกี่ยวกับที่ดินแห่งหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นส่วนผู้ร้องที่ 2 ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์เกี่ยวกับบ้านอีกแห่งหนึ่งโดยอ้างว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น ย่อมเป็นที่เห็นได้ชัดแจ้งว่าผู้ร้องทั้งสองมิได้มีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดีที่ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ดังกล่าว การที่เหตุแห่งคดีเกิดขึ้นในวันเดียวกัน หรือเป็นการสะดวกที่จะดำเนินคดีไปพร้อมกันก็หาใช่ข้อที่จะแสดงว่าผู้ร้องทั้งสองมีผลประโยชน์ร่วมกันแต่อย่างใดไม่ เมื่อผู้ร้องทั้งสองมิได้มีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดีย่อมไม่อาจเป็นคู่ความในคดีเดียวกันได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share