คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตามรายงานการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ปรากฏว่า โจทก์ร่วมมีบาดแผลฟกช้ำที่ใต้ตาขวา เจ็บคอด้านหลัง เจ็บหน้าอก เจ็บกลางหลังนิ้วก้อยขวาเหยียดไม่ได้เต็มที่สูญเสียหน้าที่เนื่องจากข้อเคลื่อนและลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณหนึ่งเดือน ส่วน ส.ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งแพทย์ได้บันทึกว่าลูกตาขวาช้ำ เลือดออกใต้เยื่อบุตารอบ ๆ ขอบตาช้ำ แก้มขวาบวมช้ำ ริมฝีปากบนช้ำ ฟันหน้าโยกและหลุดไป ศีรษะบริเวณหลังใบหูซ้ายมีรอยช้ำ เจ็บบริเวณคอและหน้าอกเจ็บหัวไหล่ขวา ยกแขนขวาไม่ได้ และลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณสองเดือน ตามลักษณะของบาดแผลดังกล่าวถือได้ว่า โจทก์ร่วมและ ส. ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน ถึงขั้นได้รับอันตรายสาหัส

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่กับพวกที่หลบหนีอีก 1 คน ได้ร่วมกันชก กระทืบและใช้ไม้ท่อนเป็นอาวุธตีทำร้ายร่างกายนายมานะ อยู่สุขสวัสดิ์ นางสุมาลี อยู่สุขสวัสดิ์ นางสาวมาลินีอยู่สุขสวัสดิ์ นายสันติ อยู่สุขสวัสดิ์ และเด็กหญิงรัตนา อยู่สุขสวัสดิ์ ถูกที่บริเวณร่างกายหลายแห่ง เป็นเหตุให้นายมานะและนางสุมาลีได้รับอันตรายสาหัสต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน นางสาวมาลินีและเด็กหญิงรัตนาได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา295, 297, 83
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 3 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จำคุกคนละ 1 ปี ข้อหานอกจากนี้ให้ยกฟ้อง และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และที่ 2 โจทก์ร่วม จำเลยที่ 3และจำเลยที่ 4 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 และ 297(8) ประกอบด้วยมาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 297(8) ซึ่งเป็นบทหนักจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยต่อไปจึงมีว่า โจทก์ร่วมและผู้เสียหายถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัสหรือไม่ ข้อนี้ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นว่า ฝ่ายจำเลยยอมรับว่าแพทย์ได้ตรวจโจทก์ร่วมและผู้เสียหายแล้วทำรายงานความเห็นการตรวจชันสูตรบาดแผลไว้ตามเอกสารท้ายฟ้องจริง ซึ่งตามรายงานดังกล่าวปรากฏว่าโจทก์ร่วมมีบาดแผลฟกช้ำที่ใต้ตาขวา เจ็บคอด้านหลังเจ็บหน้าอก เจ็บกลางหลัง นิ้วก้อยขวาเหยียดไม่ได้เต็มที่สูญเสียหน้าที่เนื่องจากข้อเคลื่อน และลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณหนึ่งเดือน ส่วนนางสุมาลีแพทย์ได้บันทึกว่าลูกตาขวาช้ำ เลือดออกใต้เยื่อบุตา รอบ ๆ ขอบตาช้ำ แก้มขวาบวมช้ำ ริมฝีปากบนช้ำฟันหน้าโยกและหลุดไปศีรษะบริเวณหลังใบหูซ้ายมีรอยช้ำ เจ็บบริเวณคอและหน้าอก เจ็บหัวไหล่ขวา ยกแขนขวาไม่ได้และลงความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณสองเดือน ซึ่งตามลักษณะของบาดแผลดังกล่าวถือได้ว่า โจทก์ร่วมและนางสุมาลีป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน จึงถึงขั้นได้รับอันตรายสาหัสแล้ว การกระทำของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 จึงเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง”
พิพากษายืน

Share