คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายรถยนต์มีข้อความว่า “หากผู้ซื้อไม่นำเงินมาชำระตามกำหนด ผู้ซื้อยินยอมให้ผู้ขายริบเงินมัดจำและคืนรถทันทีในสภาพเรียบร้อยทุกประการ” เป็นเพียงการกำหนดวิธีการบังคับเมื่อเกิดกรณีผิดสัญญาขึ้นเท่านั้นหาใช่เงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ไม่ ถือว่าสัญญาซื้อขายระหว่าง พ. กับ ป. เป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาทย่อมตกเป็นของ ป. ตั้งแต่ขณะที่การซื้อขายสำเร็จแล้ว
โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาท จำเลยซึ่งไม่ใช่เจ้าของไม่มีสิทธิที่จะยึดถือใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์พิพาทไว้ ต้องโอนทะเบียนและมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถให้แก่โจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถพร้อมเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนแก่โจทก์ หรือขอให้จำเลยออกเอกสารเกี่ยวกับการขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการชื่อจำเลยเป็นชื่อโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันไม่จำต้องคืนเอกสารแก่โจทก์ เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน8 ร – 3092 กรุงเทพมหานคร จากนายประทีป มากคุณ ในราคา 172,000 บาทนายประทีปส่งมอบรถยนต์พร้อมใบคู่มือจดทะเบียนรถและเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อทางทะเบียนรถได้แก่ ภาพถ่ายหนังสือรับรองของบริษัทราชธานีลิสซิ่ง จำกัด ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจ หนังสือมอบอำนาจจากบริษัทและแบบคำขอโอนรับโอนของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีการลงนามประทับตราของบริษัทดังกล่าวให้โจทก์ และโจทก์ได้มอบเอกสารดังกล่าว พร้อมกับหนังสือมอบอำนาจภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนและภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของโจทก์ให้นายประทีปนำไปดำเนินการแก้ไขรายการชื่อทางทะเบียนรถเป็นชื่อของโจทก์และแจ้งย้ายรถไปที่จังหวัดนครสวรรค์แทนโจทก์นายประทีปตกลงโดยแจ้งว่าจะไปดำเนินการร่วมกับจำเลย แต่นายประทีปไม่ดำเนินการให้ตามกำหนด ต่อมาโจทก์ทราบว่า จำเลยแก้ไขชื่อทางทะเบียนของรถคันดังกล่าวจากบริษัทราชธานีลิสซิ่ง จำกัดเป็นชื่อของจำเลยและแจ้งย้ายรถไปที่จังหวัดนครสวรรค์ตามข้อตกลงที่จำเลยได้ขายรถคันดังกล่าวให้แก่นายประทีป โจทก์ทวงถามให้จำเลยส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถและเอกสารอันเกี่ยวกับการขอจดทะเบียนแก้ไขรายการชื่อทางทะเบียนของรถคันดังกล่าวซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิที่จะยึดถือไว้ให้แก่โจทก์แล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันหมายเลขทะเบียน 8 ร – 3092 กรุงเทพมหานคร พร้อมเอกสารเกี่ยวกับการขอจดทะบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการชื่อทางทะเบียนรถหรือออกเอกสารเกี่ยวกับการขอจดทะเบียนแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการชื่อจำเลยเป็นชื่อโจทก์ให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ยอมคืน หรือออกเอกสารใหม่ให้แก่โจทก์ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยไปขอออกใบคู่มือจดทะเบียนรถและจดทะเบียนแก้ไขชื่อทางทะเบียนเป็นชื่อโจทก์ ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายวันละ 200 บา นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบเอกสารแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยได้ขายรถยนต์กระบะคันตามฟ้องให้แก่นายประทีปในราคา 160,000 บาท นายประทีปรับมอบรถยนต์คันดังกล่าวไปแล้วแต่เช็คที่นายประทีปชำระราคาถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยให้นายประทีปคืนรถยนต์ แต่นายประทีปหลบหนี จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน กับให้คืนค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ส่วนที่เกินกว่าที่โจทก์จะต้องเสียสำหรับคดีไม่มีทุนทรัพย์แก่โจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยโอนทะเบียนและส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถพร้อมเอกสารอื่นตามฟ้องให้แก่โจทก์หรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เดิมรถยนต์พิพาทเป็นของจำเลยต่อมาเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2535 จำเลยขายให้แก่นายประทีป มากคุณ ในราคา 160,000 บาท และเมื่อวันที่20 เมษายน 2535 นายประทีปขายรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์ในราคา172,000 บาท โจทก์ชำระราคาให้แก่นายประทีปและนายประทีปได้ส่งมอบรถยนต์พิพาทให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยมีชื่อและเป็นผู้ครอบครองใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์คันพิพาท เห็นว่า ตามคำให้การของจำเลยเพียงแต่อ้างว่ายังได้รับชำระราคาจากนายประทีปไม่ครบถ้วนมิได้ต่อสู้ว่ากรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาทยังไม่โอนไปเป็นของนายประทีป ทั้งเมื่อพิจารณาข้อความในสัญญาซื้อขายรถยนต์พิพาทระหว่างนายประทีปกับนายพิทักษ์ รู้คุณ ซึ่งจำเลยรับว่านายพิทักษ์เป็นผู้ที่นำรถยนต์พิพาทไปขายให้แก่นายประทีปมีข้อความว่านายพิทักษ์ตกลงขายรถยนต์พิพาทให้แก่นายประทีปในราคา 170,000 บาท ผู้ซื้อชำระเงินสดหรือวางมัดจำในวันทำสัญญา 10,000 บาท ส่วนที่เหลือจะชำระในวันที่ 23 เมษายน2535 ซึ่งราคาส่วนที่เหลือนี้จำเลยอ้างว่านายประทีปชำระด้วยเช็คแต่เรียกเก็บเงินไม่ได้ ตามสัญญาดังกล่าวก็ไม่ได้ระบุว่าให้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาทโอนไปเมื่อผู้ขายได้รับชำระค่ารถยนต์ครบถ้วนแล้วแต่อย่างใด แม้ตอนท้ายของสัญญาจะมีข้อความว่า ” หากผู้ซื้อไม่นำเงินมาชำระตามกำหนด ผู้ซื้อยินยอมให้ผู้ขายริบเงินมัดจำและคืนรถทันทีในสภาพเรียบร้อยทุกประการ” ก็เป็นเพียงการกำหนดวิธีการบังคับเมื่อเกิดกรณีผิดสัญญาขึ้นเท่านั้น หาใช่เงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ไม่ ถือว่าสัญญาซื้อขายระหว่างนายพิทักษ์กับนายประทีปเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาทย่อมตกเป็นของนายประทีปตั้งแต่ขณะที่การซื้อขายสำเร็จแล้ว โจทก์เป็นผู้ซื้อรถยนต์พิพาทจากนายประทีป โดยไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ส่อไปในทางไม่สุจริต โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาท จำเลยซึ่งไม่ใช่เจ้าของไม่มีสิทธิที่จะยึดถือใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์พิพาทไว้ ต้องโอนทะเบียนและมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถให้แก่โจทก์ และเมื่อการกระทำของจำเลยดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เนื่องจากไม่สามารถโอนทะเบียนรถยนต์พิพาทมาเป็นของโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้แต่ที่โจทก์อ้างว่าเสียหายวันละ 200 บาท โจทก์ไม่ได้นำสืบว่าโจทก์เสียหายถึงวันละ 200 บาท อย่างไร เห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายให้แก่โจทก์วันละ 50 บาท

อนึ่ง คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถพร้อมเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนแก่โจทก์ หรือขอให้จำเลยออกเอกสารเกี่ยวกับการขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการชื่อจำเลยเป็นชื่อโจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกันไม่จำต้องคืนเอกสารแก่โจทก์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกา 200 บาท จึงให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เสียเกินมาแก่โจทก์

พิพากษากลับ ให้จำเลยโอนทะเบียนและส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์หมายเลขทะเบียน 8 ร – 3092 กรุงเทพมหานคร ให้แก่โจทก์หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยกับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 50 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะโอนทะเบียนและส่งมอบใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์พิพาทแก่โจทก์ ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เสียเกินมาแก่โจทก์

Share