คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4072/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายแม่พันธุ์โคนมจากโจทก์โดยได้รับแม่พันธุ์โคนมไปถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแล้วและนับแต่ทำสัญญา จำเลยชำระค่าแม่พันธุ์โคนมให้แก่โจทก์เพียง 2 งวดเท่านั้น เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายแก่จำเลยแล้ว จำเลยไม่คืนแม่พันธุ์โคนมและลูกโคแก่โจทก์ โจทก์จึงฟ้องเรียกให้จำเลยคืนแม่พันธุ์โคนมและลูกโคแก่โจทก์ หากไม่ส่งคืนก็ให้จำเลยใช้ราคารวม57,800 บาท กรณีจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ติดตามเอาทรัพย์คืนจากจำเลย หากคืนไม่ได้หรือไม่ส่งคืนก็ให้จำเลยใช้ราคาตามฟ้อง ซึ่งไม่มีอายุความ และกรณีไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยชำระเงินเพื่อผ่อนทุกคืนเป็นงวด ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 193/33(2) คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ตกลงจะซื้อแม่พันธุ์โคนมไปจากโจทก์ 3 ตัวราคา 60,000 บาท โดยทำเป็นสัญญาจะซื้อจะขายกันไว้ จำเลยที่ 1 ตกลงผ่อนชำระราคาให้แก่โจทก์48 งวด งวดละ 1,250 บาท ภายในทุกวันสิ้นเดือนจำเลยที่ 1รับแม่พันธุ์โคนมไปถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแล้ว และจำเลยที่ 1ทำสัญญายืมเงินจากโจทก์อีก 10,000 บาท จะผ่อนชำระเงินคืน20 งวด งวดละ 500 บาทสัญญาจะซื้อจะขายและสัญญายืมเงินดังกล่าว มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน หลังทำสัญญาแม่พันธุ์โคนมที่จำเลยที่ 1 รับไปตกลูก 3 ตัว แต่ลูกโคตายไป 2 ตัวคงเหลือเพียง 1 ตัว ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์นับแต่ทำสัญญาจำเลยที่ 1 ชำระค่าแม่พันธุ์โคนมและเงินยืมให้แก่โจทก์เพียง 2 งวด ครั้งสุดท้ายชำระเมื่อวันที่15 มีนาคม 2532 แบ่งเป็นค่าแม่พันธุ์โคนม 2,500 บาทค่าเงินยืม 1,000 บาท แล้วเพิกเฉยไม่ชำระอีก โจทก์มีหนังสือทวงถามและบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยทั้งสองแล้วแต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ส่งคืนแม่พันธุ์โคนม 3 ตัว และลูกโค 1 ตัว แก่โจทก์ หากไม่สามารถคืนได้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระราคาแม่พันธุ์โคนมเป็นเงิน57,500 บาท และค่าลูกโคเป็นเงิน 300 บาท กับร่วมกันชำระเงินยืมที่ค้างจำนวน 9,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น66,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากเงินต้นดังกล่าวนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่ต้องคืนแม่พันธุ์โคนมแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ชำระค่าแม่พันธุ์โคนมและเงินยืมซึ่งมีกำหนดเวลาให้ผ่อนคืนเป็นงวดทุกเดือน งวดสุดท้ายชำระเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2532 หนี้ที่ค้างในส่วนที่เกิน 5 ปีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33(2) ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ส่งคืนแม่พันธุ์โคนม 3 ตัวและลูกโค 1 ตัว แก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแม่พันธุ์โคนม57,500 บาท และราคาลูกโค 300 บาท แก่โจทก์แทนพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทนในฐานะผู้ค้ำประกัน คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายแก่จำเลยทั้งสองแล้ว แต่จำเลยทั้งสองไม่คืนแม่พันธุ์โคนมและลูกโคแก่โจทก์ โจทก์จึงฟ้องเรียกให้จำเลยที่ 1 คืนแม่พันธุ์โคนม 3 ตัว และลูกโค 1 ตัว แก่โจทก์หากไม่ส่งคืนก็ให้จำเลยที่ 1 ใช้ราคารวม 57,800 บาท กรณีจึงเป็นเรื่องที่โจทก์ติดตามเอาทรัพย์คืนจากจำเลยที่ 1 หากคืนไม่ได้หรือไม่ส่งคืนก็ให้จำเลยที่ 1 ใช้ราคาตามฟ้อง ซึ่งไม่มีอายุความและกรณีหาใช่เรื่องที่โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินเพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวด ๆ ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 193/33(2)ดังจำเลยที่ 1 ฎีกาไม่ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share