คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4068/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้ขับรถยนต์ซึ่งพนักงานสอบสวนยึดไว้ และมอบให้ผู้อื่นดูแลรักษาเพื่อรอการสืบสวนหาตัวผู้เป็นเจ้าของ แม้ขณะเกิดเหตุถูกรถอื่นชนจะถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองรถดังกล่าวก็ตาม โจทก์ก็มิได้เป็นเจ้าของหรือผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์นั้น จึงหามีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายเกี่ยวกับตัวรถโดยตรงไม่ ผู้มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของเท่านั้นที่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายในมูลละเมิดอันเกี่ยวกับตัวทรัพย์ได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ 31,300 บาท พร้อมดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องสำหรับโจทก์ร่วม จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามคำวินิจฉัยศาลล่างทั้งสองฟังต้องกันว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน ป.น.03004 คันพิพาทเป็นรถยนต์ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชยึดไว้ และได้มอบหมายให้โจทก์ร่วมเป็นผู้ดูแลรักษาเพื่อรอการสืบสวนหาตัวผู้ที่เป็นเจ้าของ ต่อมาในวันเกิดเหตุตามฟ้องโจทก์ได้นำเอารถยนต์คันดังกล่าวไปขับ โดยขับจากอำเภอท่าศาลาไปทาง อำเภอทุ่งสง ระหว่างทางได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์โดยสารประจำทางคันหมายเลขทะเบียน น.ศ. 02883ของจำเลยที่ 2 ซึ่งจำเลยที่ 1 ลูกจ้างเป็นคนขับในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2ผู้เป็นนายจ้างได้รับความเสียหายเสียเงินเป็นค่าซ่อม 31,300 บาท เหตุที่รถยนต์ทั้งสองฝ่ายเกิดชนกันขึ้นนี้เกิดขึ้นจากความประมาทของจำเลยที่ 1ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ฝ่ายเดียว

ตามฎีกาจำเลยที่ 2 คงมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้เพียงว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายเกี่ยวกับค่าซ่อมรถยนต์คันพิพาทหรือไม่ กับฟ้องในเรื่องค่าเสียหายเคลือบคลุมหรือไม่

ในประเด็นข้อแรกตามฎีกาจำเลยที่ 2 ที่ว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกี่ยวกับค่าซ่อมรถยนต์คันพิพาทหรือไม่นั้น ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุแม้โจทก์จะเป็นผู้ขับรถยนต์คันพิพาท อันจะถือได้ว่าเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวดังข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ก็ตาม แต่ตามฟ้องและจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โจทก์มิได้เป็นเจ้าของหรือผู้มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันพิพาทนั้น โจทก์จึงหามีอำนาจที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกี่ยวกับตัวรถยนต์คันพิพาทโดยตรงไม่ ผู้ที่มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของเท่านั้นที่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในมูลละเมิดอันเกี่ยวกับตัวทรัพย์นี้ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 2 ข้อนี้ฟังขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้อต่อไป

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เสียด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 2ทั้งสามศาลให้เป็นพับ”

Share