คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4063/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน แล่นไล่ตามและขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้เสียหายให้หยุด เพื่อทำการปล้นรถจักรยานยนต์ผู้เสียหาย รถจักรยานยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงต้องริบตามกฎหมาย แต่เมื่อรถจักรยานยนต์ของกลางคันหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งคืนให้เจ้าของที่แท้จริงไปแล้ว และคดีถึงที่สุด ศาลฎีกาย่อมให้ริบเฉพาะรถจักรยานยนต์ของกลางคันที่เหลืออยู่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2532 เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยกับพวกอีกหกคนที่ยังจับตัวไม่ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ของนายเศกสรรค์ อารยาพันธ์ ผู้เสียหายโดยใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นยานพาหนะ และใช้อาวุธปืนขู่เข็ญผู้เสียหายเพื่อความสะดวกแก่การปล้นทรัพย์ เหตุเกิดที่ตำบลนาโพธิ์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าพนักงานติดตามยึดรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่จำเลยกับพวกใช้เป็นยานพาหนะในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83, 340, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 และให้คืนรถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน นครศรีธรรมราช จ-6867 แก่ผู้เสียหาย นอกนั้นให้ริบ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรีจำคุก 20 ปี คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 13 ปี 4 เดือน รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายได้รับคืนไปแล้ว ของกลางนอกนั้นให้ริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ส่วนรถจักรยานยนต์ของกลางไม่ปรากฏว่าได้ใช้ในการกระทำผิด จึงไม่ริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ของกลางทั้ง 2 คัน แล่นไล่ตามและขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้เสียหายให้หยุด เพื่อทำการปล้นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย และหลังเกิดเหตุแทบจะทันทีทันใดเจ้าพนักงานตำรวจทางหลวงก็ผ่านมายังที่เกิดเหตุและทราบเหตุ จึงติดตามคนร้ายไปพบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายและของผู้เสียหายห่างที่เกิดเหตุเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ไม่พบตัวคนร้าย ผู้เสียหายยืนยันว่ารถที่พบเป็นของคนร้ายและของตน จึงยึดมาเป็นของกลางคดีฟังได้ว่า รถจักรยานยนต์ของกลาง 2 คัน เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด จึงต้องริบตามกฎหมาย
พิพากษายืน แต่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นอาร์.เอ็กซ์.เค หมายเลขเครื่องและเลขตัวถัง 3 เจ.วาย.014545หมายเลขทะเบียน นครศรีธรรมราช ฌ-2331 ศาลชั้นต้นสั่งคืนให้เจ้าของที่แท้จริงไปแล้ว คดีถึงที่สุด จึงให้ริบเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น อาร์เอ็กซ์.แซท หมายเลขทะเบียน สุราษฎร์ธานีจ-7528

Share