คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 406/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องซื้อที่ดินจากจำเลยซึ่งเอาไปจำนองโจทก์แต่ยังชำระราคาไม่ครบถ้วน เป็นผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะชำระหนี้แทนจำเลยได้ แต่หนี้ที่จำเลยจะชำระแก่โจทก์เป็นหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งจำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์ภายใน 15 วันผู้ร้องก็ต้องชำระหนี้ภายใน กำหนดดังกล่าว จะขอผัดเวลาชำระหนี้ไปโดยโจทก์จำเลยมิได้ยินยอมไม่ได้ เมื่อผู้ร้องมิได้ชำระหนี้ ภายในกำหนดนั้นโจทก์ย่อมมีสิทธิบังคับคดียึดทรัพย์มาขายทอดตลาดได้

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งมีคำพิพากษาตามยอม โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองคือที่ดินโฉนดเลขที่ 7967 เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องทำสัญญาซื้อที่ดินรายนี้จากจำเลยโดยชำระราคาบางส่วนแล้ว และเข้าครอบครองปลูกโรงเรือนเป็นที่อยู่อาศัย จึงขอชำระหนี้แทนจำเลย

ในวันนัดพร้อมโจทก์จำเลยและทนายผู้ร้องมาศาล ทนายผู้ร้องแถลงขอชำระหนี้แทนจำเลยภายใน 3 เดือน จำเลยคัดค้านว่าหากจะต้องรอต่อไปอีกก็จะทำให้จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นขอให้สั่งขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้ร้องทำสัญญาซื้อที่ดินจากจำเลยมานานแล้ว แต่ยังชำระราคาไม่ครบถ้วนและจำเลยก็คัดค้านไม่ยอมให้ผู้ร้องชำระหนี้แทนเพราะจำเลยเสียหาย จึงให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ผู้ร้องจะมีส่วนได้เสียในอันที่จะชำระหนี้แทนจำเลยก็ตาม แต่หนี้ที่จำเลยจะต้องชำระแก่โจทก์เป็นหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งจำเลยจะต้องชำระให้โจทก์ภายใน 15 วัน นับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หากผู้ร้องจะชำระหนี้ดังกล่าวแทนจำเลย ผู้ร้องก็จะต้องชำระหนี้ภายในกำหนดดังกล่าว เมื่อผู้ร้องมิได้ชำระหนี้ภายในกำหนดนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้บังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยมาขายทอดตลาดนำเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดชำระหนี้นั้นได้การที่ผู้ร้องขอชำระหนี้แทนจำเลยโดยขอผัดไปอีก 3 เดือน โดยโจทก์และจำเลยไม่ยินยอม จึงหาอาจกระทำได้ไม่

พิพากษายืน

Share