แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คณะกรรมการจังหวัดได้ออกประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้าวเปลือก ไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บ ตามอำนาจในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคนั้น แม้เรื่องการแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวจะมีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติสำรวจห้ามกักกันข้าวซึ่งออกใช้ภายหลังก็ดีศาลก็จะใช้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวแทนพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ไม่ได้ เพราะกฎหมายทั้งสองนี้มีความมุ่งหมายต่างกัน
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า คณะกรมการจังหวัดเพชรบุรีได้ออกประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้าวเปลือกตั้งแต่ 50 ถัง ไปแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่ออำเภอท้องที่ภายใน 7 วัน โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภค ฯลฯ พ.ศ. 2488 จำเลยมีข้าวเปลือกแต่ละคนเกิน 50 ถังมิได้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บภายในกำหนด จึงฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภค ฯลฯ พ.ศ. 2488 มาตรา 4, 5, 10, 20
จำเลยทุกคนรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จะนำพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวมาใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ไม่ได้แต่เห็นตามคำพยานโจทก์นำสืบมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยไม่ทราบประกาศของคณะกรมการจังหวัดเพชรบุรี จำเลยหามีเจตนาฝ่าฝืนไม่จึงพิพากษายกฟ้อง ยืนตามศาลอุทธรณ์